พระราชกฤษฎีกา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ.2560เมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2560 ทาง เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา http://www.mratchakitcha.soc.go.th/ ได้เผยแพร่ พระราชกฤษฎีกา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 9) พ.ศ. 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็นการสมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาว่าด้วยค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา 22 ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับชั่วคราว) พุทธศักราช 2557 และมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติการกําหนดหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงินบางประเภทตามงบประมาณรายจ่าย พ.ศ. 2518 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชกฤษฎีกาขึ้นไว้ (อ่านทั้งหมดที่นี่) โดยมีมาตราสำคัญดังต่อไปนี้ มาตรา 7 ให้ยกเลิกความในมาตรา 27 แห่งพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2553 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 27 การเดินทางไปราชการโดยเครื่องบิน ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ชั้นธุรกิจ สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ (ก) หัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาล (ข) ประธานรัฐสภา และรองประธานรัฐสภา (ค) ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา (ง) ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (จ) รัฐมนตรี (ฉ) ผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ (2) ชั้นประหยัด สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ (ก) ผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ได้แก่ รองปลัดกระทรวง ผู้ตรวจราชการ อธิบดี หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด เอกอัครราชทูต ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิตําแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับสูง หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า หรือข้าราชการทหารซึ่งมียศพลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี ขึ้นไป หรือข้าราชการตํารวจซึ่งมียศพลตํารวจตรีขึ้นไป (ข) ผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ ตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับต้น ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการพิเศษ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับชํานาญงาน หรือข้าราชการทหารซึ่งมียศพันโท นาวาโท นาวาอากาศโท ขึ้นไป หรือข้าราชการตํารวจซึ่งมียศพันตํารวจโทขึ้นไป ทั้งนี้ นอกจากที่ระบุใน (ก) (ค) ผู้ดํารงตําแหน่งระดับ หรือยศ ต่ํากว่าที่ระบุใน (ก) หรือ (ข) เฉพาะกรณีที่มีความจําเป็นรีบด่วนเพื่อประโยชน์แก่ทางราชการ ในกรณีผู้เดินทางตาม (2) (ก) มีความจําเป็นต้องโดยสารเครื่องบินในชั้นที่สูงกว่าสิทธิให้ผู้ดํารงตําแหน่งที่เดินทางดังกล่าวสามารถเดินทางและเบิกค่าโดยสารเครื่องบินในชั้นที่สูงกว่าสิทธิได้ โดยต้องได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ สําหรับส่วนราชการใดที่ไม่มีปลัดกระทรวงให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวงเป็นผู้อนุมัติ การเดินทางซึ่งไม่เข้าหลักเกณฑ์ตาม (1) หรือ (2) จะเบิกค่าใช้จ่ายได้ไม่เกินค่าพาหนะในการเดินทางภาคพื้นดินระยะเดียวกันตามสิทธิซึ่งผู้เดินทางจะพึงเบิกได้" มาตรา 12 ให้ยกเลิกความในมาตรา 53 แห่งพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ (ฉบับที่ 8) พ.ศ. 2553 และให้ใช้ความต่อไปนี้แทน "มาตรา 53 การเดินทางไปราชการต่างประเทศโดยเครื่องบินจากประเทศไทยไปต่างประเทศ หรือจากต่างประเทศกลับประเทศไทย หรือการเดินทางในต่างประเทศ สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งดังต่อไปนี้ ให้เดินทางโดยชั้นหนึ่ง (1) หัวหน้าคณะผู้แทนรัฐบาล (2) ประธานรัฐสภา และรองประธานรัฐสภา (3) ประธานวุฒิสภา และรองประธานวุฒิสภา (4) ประธานสภาผู้แทนราษฎร และรองประธานสภาผู้แทนราษฎร (5) รัฐมนตรี (6) ผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ตําแหน่งหัวหน้าส่วนราชการระดับกระทรวง หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ ผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ" มาตรา 13 ให้เพิ่มความต่อไปนี้เป็นมาตรา 53/1 และมาตรา 53/2 แห่งพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 "มาตรา 53/1 การเดินทางไปราชการต่างประเทศโดยเครื่องบินจากประเทศไทยไปต่างประเทศ หรือจากต่างประเทศกลับประเทศไทย หรือการเดินทางในต่างประเทศที่มีระยะเวลาในการเดินทางตั้งแต่เก้าชั่วโมงขึ้นไป ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ชั้นหนึ่ง สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ได้แก่ รองปลัดกระทรวงผู้ตรวจราชการ อธิบดี หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด เอกอัครราชทูต หรือตําแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า หรือข้าราชการทหารซึ่งมียศพลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก พลโท พลเรือโท พลอากาศโท หรือข้าราชการตํารวจซึ่งมียศพลตํารวจเอก พลตํารวจโท (2) ชั้นธุรกิจหรือชั้นระหว่างชั้นหนึ่งกับชั้นประหยัด สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับสูง หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า หรือข้าราชการทหารซึ่งมียศพลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี หรือข้าราชการตํารวจซึ่งมียศพลตํารวจตรี (3) ชั้นประหยัด สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งระดับ ชั้น หรือยศ นอกจากที่ระบุใน (1) และ (2) ในกรณีผู้เดินทางตาม (2) มีความจําเป็นต้องโดยสารเครื่องบินในชั้นที่สูงกว่าสิทธิ ให้ผู้ดํารงตําแหน่งที่เดินทางดังกล่าวสามารถเดินทางและเบิกค่าโดยสารเครื่องบินในชั้นที่สูงกว่าสิทธิได้ โดยต้องได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ สําหรับส่วนราชการใดที่ไม่มีปลัดกระทรวงให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวงเป็นผู้อนุมัติ มาตรา 53/2 การเดินทางไปราชการต่างประเทศโดยเครื่องบินจากประเทศไทยไปต่างประเทศ หรือจากต่างประเทศกลับประเทศไทย หรือการเดินทางในต่างประเทศที่มีระยะเวลาในการเดินทางต่ํากว่าเก้าชั่วโมง ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ (1) ชั้นธุรกิจ สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับสูง ได้แก่ รองปลัดกระทรวงผู้ตรวจราชการ อธิบดี หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า ผู้ว่าราชการจังหวัด เอกอัครราชทูต หรือตําแหน่งประเภทวิชาการระดับทรงคุณวุฒิ หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า หรือข้าราชการทหารซึ่งมียศพลเอก พลเรือเอก พลอากาศเอก พลโท พลเรือโท พลอากาศโท ข้าราชการตํารวจซึ่งมียศพลตํารวจเอก พลตํารวจโท (2) ชั้นประหยัด สําหรับผู้ดํารงตําแหน่งประเภทบริหารระดับต้น ตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับสูง ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ ตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับต้น ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการพิเศษ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับชํานาญงาน ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงาน หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า หรือข้าราชการทหารซึ่งมียศพลตรี พลเรือตรี พลอากาศตรี ลงมา หรือข้าราชการตํารวจซึ่งมียศพลตํารวจตรี ลงมา ในกรณีผู้เดินทางตาม (1) และ (2) มีความจําเป็นต้องโดยสารเครื่องบินในชั้นที่สูงกว่าสิทธิให้ผู้ดํารงตําแหน่งที่เดินทางดังกล่าวสามารถเดินทางและเบิกค่าโดยสารเครื่องบินในชั้นที่สูงกว่าสิทธิได้โดยต้องได้รับอนุมัติจากปลัดกระทรวงเจ้าสังกัด ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการทหารบก ผู้บัญชาการทหารเรือ ผู้บัญชาการทหารอากาศ และผู้บัญชาการตํารวจแห่งชาติ สําหรับส่วนราชการที่ไม่มีปลัดกระทรวง ให้ผู้บังคับบัญชาที่มีอํานาจเช่นเดียวกับปลัดกระทรวงเป็นผู้อนุมัติ เว้นแต่ผู้ดํารงตําแหน่งประเภทวิชาการระดับเชี่ยวชาญตําแหน่งประเภททั่วไประดับทักษะพิเศษ ตําแหน่งประเภทอํานวยการระดับต้น ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการพิเศษ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับอาวุโส ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับชํานาญการ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับชํานาญงาน ตําแหน่งประเภทวิชาการระดับปฏิบัติการ ตําแหน่งประเภททั่วไประดับปฏิบัติงาน หรือตําแหน่งที่เทียบเท่า หรือข้าราชการทหารซึ่งมียศพันเอก นาวาเอก นาวาอากาศเอกอัตราเงินเดือนพันเอกพิเศษ นาวาเอกพิเศษ นาวาอากาศเอกพิเศษ ลงมา หรือข้าราชการตํารวจซึ่งมียศพันตํารวจเอก อัตราเงินเดือนพันตํารวจเอกพิเศษ ลงมา ให้โดยสารชั้นประหยัด" หมายเหตุ :- เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้ คือ โดยที่การจ่ายเงินตามงบประมาณรายจ่ายในประเภทค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการตามพระราชกฤษฎีกาค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการ พ.ศ. 2526 และที่แก้ไขเพิ่มเติม ยังไม่เหมาะสมกับสภาวการณ์ปัจจุบัน สมควรแก้ไขเพิ่มเติมพระราชกฤษฎีกาดังกล่าว เพื่อปรับปรุงหลักเกณฑ์เกี่ยวกับการจ่ายเงิน วิธีการเบิกจ่าย อัตราการจ่าย ของผู้มีสิทธิได้รับเงินประเภทดังกล่าว รวมทั้งหลักเกณฑ์อื่นที่เกี่ยวข้อง กรณีการเดินทางไปราชการชั่วคราวและราชการประจําในราชอาณาจักร และกรณีการเดินทางไปราชการต่างประเทศ จึงจําเป็นต้องตราพระราชกฤษฎีกานี้ |
Categories
All
|