วงเงินไม่เกิน 500,000 บาทก็ควรต้องจัดทำ “ใบแจ้งปริมาณงานและราคาแนบท้ายสัญญา” ตาม ว232 ไม่ว่าจะใช้วิธีการจัดจ้างแบบไหนก็ตาม วงเงินไม่เกิน 500,000 บาทก็ควรต้องจัดทำ “ใบแจ้งปริมาณงานและราคาแนบท้ายสัญญา” ตาม ว232 ไม่ว่าจะใช้วิธีการจัดจ้างแบบไหนก็ตาม
https://www.yotathai.com/passadu/w232 <ว232 ⸻ หลายหน่วยงานยังเข้าใจว่า “ถ้าใช้งบไม่เกิน 500,000 บาท แล้วจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง ก็ไม่ต้องยุ่งยากกับการทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาแนบท้ายสัญญา ตาม ว232” แต่ความจริงนั้นตรงกันข้าม… แม้หนังสือ ว232 ลงวันที่ 8 เมษายน 2568 จะไม่ได้ระบุชัดเจนว่า “บังคับใช้กับวิธีเฉพาะเจาะจง” แต่เมื่อพินิจให้ถึง ประโยชน์ ความจำเป็น และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า หน่วยงานของรัฐควรจะต้องจัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาแนบท้ายสัญญาทุกครั้ง แม้จะจัดซื้อจัดจ้างโดยวิธีการเฉพาะเจาะจง วงเงินไม่เกิน 500,000 ก็ตาม ⸻ 1. แบบสัญญาจ้างก่อสร้าง ไม่ได้แยกตามวงเงิน ถ้าคุณจัดจ้าง “งานก่อสร้าง” คุณก็ต้องใช้ แบบสัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน ตามมาตรา 93 ของ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 โดยใน ข้อ 2 ของสัญญา ระบุว่า ใบแจ้งปริมาณงานและราคา (ผนวก 3) เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา และถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาโดยสมบูรณ์ จะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ จะวงเงินมากหรือน้อย ถ้าเป็น “งานก่อสร้าง” → ก็ต้องมีใบแจ้งปริมาณงานและราคาแนบท้ายสัญญาทุกครั้ง ⸻ 2. ใบแจ้งปริมาณงานและราคาคือหัวใจของข้อ 16 ในสัญญา ข้อ 16 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง ระบุว่า ผู้ว่าจ้างสามารถสั่ง “เพิ่ม–ลด–แก้ไขงาน” ได้ โดยใช้อัตราราคาตามที่ระบุไว้ในสัญญาเป็นเกณฑ์ ถ้าคุณไม่มีใบแจ้งปริมาณงานและราคาที่แสดงอัตราราคาในแต่ละรายการอย่างชัดเจน คุณจะไม่มีอะไรใช้เป็นหลักฐานในการคิดเงินสำหรับ งานเพิ่มเติม การลดงาน งานพิเศษตามสั่ง ⸻ 3. ว232 ออกมาแทน ว452 ที่เคยใช้แนวทาง “ร่วมจัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคา” หากย้อนไปดูหนังสือ ว452 ซึ่งถูกยกเลิกโดย ว232 จะพบว่าแนวทางเดิมนั้นมีลักษณะดังนี้: หน่วยงานของรัฐแจ้งให้ผู้ที่ได้รับการคัดเลือก “มาร่วมจัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคา” โดยสามารถเลือกได้ 2 แนวทาง: • ปรับลดตามอัตราร้อยละที่เสนอ • หรือปรับลดตามความเหมาะสม (โดยคณะกรรมการกำหนดราคากลางเป็นผู้ดำเนินการ) ว452 ไม่เคยระบุให้ผู้รับจ้างจัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาเพียงฝ่ายเดียว แต่เป็นกระบวนการร่วมที่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของฝ่ายผู้ว่าจ้างอย่างชัดเจน อย่างไรก็ตาม ข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้นในทางปฏิบัติคือ หลายกรณี ไม่สามารถตกลงกันได้ → ทำให้จัดจ้างล่าช้า หรือไม่เกิดสัญญาเลย ⸻ 4. ว232 จึงเปลี่ยนแนวทางโดยสิ้นเชิงเพื่อให้ดำเนินการได้แม้ไม่ต้องเจรจา ว232 กำหนดให้เจ้าหน้าที่ (เจ้าหน้าที่พัสดุ) เป็นผู้ดำเนินการจัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาเอง โดยใช้ราคากลางเป็นฐาน แล้วปรับลดทุกบรรทัดตามสัดส่วนของราคาที่เสนอ ไม่ต้องรอให้ผู้รับจ้างเป็นคนทำ ไม่ต้องเจรจาแต่ละรายการให้เสียเวลา ไม่ต้องกลัวจัดจ้างล่มเพราะตกลงกันไม่ได้ และแม้ใน ว232 จะไม่ได้เขียนชัดเจนว่า “ใช้กับวิธีเฉพาะเจาะจง” แต่เมื่อพิจารณาว่า • วิธีเฉพาะเจาะจงก็มีการเสนอราคา • ก็มีโอกาสที่ราคาจะต่ำกว่าราคากลาง • และก็ต้องใช้แบบสัญญาก่อสร้างมาตรฐานเช่นเดียวกัน จึงเห็นได้ชัดว่า ควรอย่างยิ่งที่จะจัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาตาม ว232 เช่นเดียวกัน ⸻ 5. ถ้าไม่จัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาแนบท้ายสัญญาตาม ว232 จะเกิดอะไรขึ้น? การไม่ดำเนินการตามแนวทาง ว232 เท่ากับคุณกำลังเปิดช่องให้เกิดปัญหากับสัญญาตั้งแต่วันแรกที่เซ็นชื่อ โดยเฉพาะในกรณีที่ต้อง “เพิ่มงาน” หรือ “ลดงาน” ตามข้อ 16 ของสัญญา กรณีที่ 1: แนบใบแจ้งปริมาณงานและราคาของราคากลางเดิม → ใบแจ้งปริมาณงานและราคาจะ ไม่ตรงกับราคาที่ผู้รับจ้างเสนอจริง → เวลาต้องคำนวณค่างานเพิ่มหรือลด จะไม่มีราคาที่ตรงกับสัญญาใช้อ้างอิง → เสี่ยงเกิดความไม่เป็นธรรมทั้งต่อฝ่ายผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้าง กรณีที่ 2: แนบใบแจ้งปริมาณงานและราคาที่ผู้รับจ้างเป็นผู้จัดทำเอง → ไม่มีมาตรฐานควบคุมว่าผู้รับจ้างจะกำหนดราคาทุกรายการอย่างเป็นธรรมกับรัฐ → หากผู้รับจ้างใส่ราคารายการใดไว้สูงผิดปกติ อาจทำให้ ราชการเสียประโยชน์โดยไม่รู้ตัว → โดยเฉพาะเมื่อต้อง “เพิ่มงาน” ในรายการนั้นภายหลัง = อาจกลายเป็นต้นเหตุของความเสียหาย ทั้งสองกรณีนี้ทำให้สัญญาขาดความถูกต้อง โปร่งใส และไม่สามารถใช้ควบคุมงานหรือบริหารสัญญาได้อย่างมั่นใจ ดังนั้น แนวทางตาม ว232 ที่ให้เจ้าหน้าที่จัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาจากราคากลาง แล้วปรับลดตามสัดส่วนที่เสนอมา จึงเป็นแนวทางเดียวที่เหมาะสม เป็นธรรม และปลอดภัยที่สุด สำหรับทุกฝ่าย ⸻ สรุปชัด ๆ ในฐานะผู้ปฏิบัติงาน ไม่ว่าคุณจะจัดจ้างก่อสร้างด้วยวิธีประกวดราคา คัดเลือก หรือเฉพาะเจาะจง และไม่ว่างานจะเล็กหรือใหญ่ ถ้าคุณต้องแนบใบแจ้งปริมาณงานและราคากับสัญญา ➤ ก็ต้องจัดทำใบแจ้งปริมาณงานและราคาตามแนวทางของ ว232 ทันที เพราะถึงแม้ ว232 จะไม่ได้ระบุบังคับทุกวิธีอย่างชัดเจน แต่เมื่อพินิจถึง “ความจำเป็นทางสัญญา” และ “โอกาสในการเปลี่ยนแปลงงานตามข้อ 16” ก็ไม่ควรหลีกเลี่ยงด้วยประการทั้งปวง ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K |
Categories
All
|