ฟันธง! งานก่อสร้างที่ไม่มีผลกระทบต่อการจราจร ต้องกำหนดค่าปรับ 0.1% เท่านั้น ฟันธง! งานก่อสร้างที่ไม่มีผลกระทบต่อการจราจร ต้องกำหนดค่าปรับ 0.1% เท่านั้น
บริการสาธารณะต้องต่อเนื่อง! งานล่าช้าคือความเสียหายของประชาชน งานก่อสร้างเป็นหัวใจของการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานของประเทศ หากล่าช้า ใครเดือดร้อน? แน่นอนว่าคือ ประชาชน! • โรงเรียนสร้างไม่เสร็จ = เด็กขาดโอกาสทางการศึกษา • โรงพยาบาลล่าช้า = คนไข้ขาดการรักษาพยาบาล • ถนนและสะพานเสร็จไม่ทัน = การเดินทางติดขัด หากบริการสาธารณะสะดุด = ประชาชนได้รับผลกระทบ! ทำไมค่าปรับต้อง 0.1% เท่านั้น? ระเบียบข้อ 162 กำหนดว่า งานก่อสร้างที่ต้องส่งมอบพร้อมกัน ต้องกำหนดค่าปรับในช่วง 0.01 - 0.10% ของราคาสัญญา ถ้ากำหนดค่าปรับต่ำสุดที่ 0.01% จะเกิดอะไรขึ้น? ค่าปรับถูกเกินไป! ผู้รับจ้างไม่เร่งงาน โครงการล่าช้านาน ประชาชนรอเก้อ ไม่มีแรงกดดันให้ผู้รับจ้างเร่งงาน ถ้ากำหนดค่าปรับที่ 0.1% จะเกิดอะไรขึ้น? ผู้รับจ้างต้องเร่งงานให้เสร็จ เพราะค่าปรับสูงจนไม่คุ้มเสี่ยง ลดปัญหาทิ้งงาน เพราะค่าปรับสะสมเร็ว โครงการเดินหน้า ประชาชนได้ใช้บริการเร็วขึ้น เปรียบเทียบให้เห็นชัด! ค่าปรับ 0.01% VS 0.1% ใช้เวลากี่วันถึง 10% ของราคาสัญญา? ตัวอย่าง: งานก่อสร้างมูลค่า 100 ล้านบาท ถ้าค่าปรับ 0.01% ของราคาสัญญาต่อวัน • ค่าปรับรายวัน = 10,000 บาท • ต้องใช้เวลากี่วันถึง 10% ของราคาสัญญา (10 ล้านบาท) • 10,000,000 ÷ 10,000 = 1,000 วัน (เกือบ 3 ปี) ผลลัพธ์: โครงการล่าช้าหลายปี! ไม่มีแรงกดดันให้เร่งงาน ถ้าค่าปรับ 0.1% ของราคาสัญญาต่อวัน • ค่าปรับรายวัน = 100,000 บาท • ต้องใช้เวลากี่วันถึง 10% ของราคาสัญญา (10 ล้านบาท) • 10,000,000 ÷ 100,000 = 100 วัน (แค่ 3 เดือน ) ผลลัพธ์: โครงการต้องเสร็จเร็วขึ้น ไม่เช่นนั้นจะถูกบีบให้ต้องเร่งงาน หรือถูกบอกเลิกสัญญา! สิทธิ์บอกเลิกสัญญา ไม่จำเป็นต้องรอค่าปรับถึง 10% ของราคาสัญญา ใน ข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน ระบุว่า ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้ ในหลายกรณี โดยไม่ต้องรอให้ค่าปรับสะสมถึง 10% ของราคาสัญญา กรณีที่ผู้ว่าจ้างสามารถบอกเลิกสัญญาได้ทันที ได้แก่ ผู้รับจ้างไม่เริ่มงานตามกำหนด ผู้รับจ้างล่าช้าจนเห็นได้ชัดว่าไม่สามารถเสร็จทันเวลา ผู้รับจ้างละเลย ไม่ทำงานตามคำสั่งของผู้ควบคุมงานหรือคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ผู้รับจ้างทำผิดสัญญาในข้อใดข้อหนึ่ง ผู้รับจ้างล้มละลาย หรือถูกพิทักษ์ทรัพย์เด็ดขาด หมายความว่า หากมีเหตุอันควร ผู้ว่าจ้างสามารถ บอกเลิกสัญญาได้ทันที โดยไม่ต้องรอให้ค่าปรับสะสมถึง 10% ตามข้อ 183 ของระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ข้อ 183 กับ ข้อ 7 แตกต่างกันอย่างไร? ข้อ 183 ของระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง • ระบุว่า หากค่าปรับสะสมเกิน 10% ของมูลค่าสัญญา หน่วยงานต้อง พิจารณาบอกเลิกสัญญา เว้นแต่คู่สัญญาจะยอมเสียค่าปรับโดยไม่มีเงื่อนไข ข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง • เปิดช่องให้ ผู้ว่าจ้างสามารถบอกเลิกสัญญาได้โดยไม่ต้องรอให้ค่าปรับถึง 10% หากเห็นว่าผู้รับจ้างทำผิดสัญญา ล่าช้าหรือมีพฤติกรรมที่แสดงให้เห็นว่าไม่สามารถทำงานให้เสร็จทันเวลา สรุป: การบอกเลิกสัญญาไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าปรับถึง 10% เสมอไป แต่หากค่าปรับสะสมถึง 10% ของมูลค่าสัญญา ตามข้อ 183 หน่วยงานก็ ต้องพิจารณาบอกเลิกสัญญา โดยอัตโนมัติ ดังนั้น ผู้ว่าจ้างต้องใช้ดุลยพินิจ หากเห็นว่าผู้รับจ้างไม่สามารถทำงานต่อไปได้ ก็ควรบอกเลิกสัญญาตั้งแต่เนิ่น ๆ ไม่จำเป็นต้องรอให้ค่าปรับสะสมถึง 10% ค่าปรับต่ำทำให้โครงการยืดเยื้อ! ต้องใช้ 0.1% เท่านั้น! ค่าปรับ 0.01% → ใช้เวลากว่า 3 ปี กว่าจะถึงจุดที่ต้องบอกเลิกสัญญา! ค่าปรับ 0.1% → ใช้เวลาเพียง 3 เดือน = งานเสร็จเร็ว บริการไม่สะดุด ประชาชนต้องได้รับบริการสาธารณะเร็วที่สุด! ฟันธง! งานก่อสร้างที่ไม่มีผลกระทบต่อการจราจร ต้องกำหนดค่าปรับ 0.1% เท่านั้น! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K ผลงานประเภทเดียวกันไม่เอานิยามตามราคากลางและค่า Factor F มาพิจารณาเด็ดขาด ผลงานประเภทเดียวกันไม่เอานิยามตามราคากลางและค่า Factor F มาพิจารณา
“ผลงานประเภทเดียวกัน” เป็นหัวใจสำคัญในการพิจารณาคุณสมบัติของผู้รับจ้างในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อให้มั่นใจว่า ผู้รับจ้างมีความสามารถและประสบการณ์ตรงกับลักษณะงานที่กำลังจะก่อสร้าง แต่ปัญหาที่พบบ่อย คือ บางหน่วยงานใช้กลุ่มงานก่อสร้างตามหลักเกณฑ์ราคากลางเป็นเกณฑ์ตัดสิน บางหน่วยงานใช้ค่า Factor F เป็นเกณฑ์พิจารณา แนวทางที่ถูกต้อง คือ ต้องพิจารณาจาก 3 ปัจจัยหลัก ได้แก่ เทคนิคการก่อสร้าง โครงสร้างหลักของงานก่อสร้าง ลักษณะการใช้งาน คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ได้ตอบข้อหารือหลายครั้งว่าสามปัจจัยนี้เป็นหลักการที่ใช้พิจารณาความเหมาะสมของผลงานที่นำมายื่นประกวดราคา หลักเกณฑ์ที่ถูกต้องในการพิจารณาผลงานประเภทเดียวกัน เทคนิคการก่อสร้าง (ปัจจัยที่สำคัญที่สุด) เทคนิคการก่อสร้าง คือ วิธีการและขั้นตอนที่ใช้ในการก่อสร้าง หากเทคนิคก่อสร้างแตกต่างกันมาก → ผลงานนั้นไม่สามารถใช้แทนกันได้ แม้โครงสร้างหลักและลักษณะการใช้งานจะเหมือนกัน → แต่ถ้าเทคนิคก่อสร้างต่างกัน ก็ถือเป็นงานคนละประเภท ตัวอย่างที่ 1: อาคารไม้สถาปัตย์ไทย vs. อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก แม้จะอยู่ในกลุ่มงาน “อาคาร” ตามหลักเกณฑ์ราคากลาง และใช้ค่า Factor F งานอาคารเหมือนกัน แต่ถือเป็นงานคนละประเภทอย่างชัดเจน เหมือนกันตรงไหน? • ทั้งสองเป็น “อาคาร” ใช้เป็นที่อยู่อาศัยได้ ต่างกันตรงไหน? • เทคนิคการก่อสร้างแตกต่างกันโดยสิ้นเชิง • อาคารไม้สถาปัตย์ไทย ต้องใช้ช่างไม้ที่มีความเชี่ยวชาญพิเศษ เช่น การเข้าไม้แบบดั้งเดิมโดยไม่ใช้ตะปู • อาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ใช้เทคนิคแบบหล่อ เทคอนกรีต เสริมเหล็ก ดังนั้น หากผู้รับจ้างเคยสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก ไม่สามารถใช้ผลงานนั้นมายื่นสร้างอาคารไม้สถาปัตย์ไทยได้ และในทางกลับกัน ช่างไม้ก็ไม่สามารถใช้ผลงานของตนมายื่นสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กได้ โครงสร้างหลักของงานก่อสร้าง โครงสร้างหลักต้องเหมือนกัน หรือคล้ายกันในระดับที่สามารถเทียบเคียงกันได้ หากโครงสร้างหลักแตกต่างกันมาก → ผลงานนั้นไม่สามารถใช้แทนกันได้ ตัวอย่างที่ 2: อาคารตลาด vs. อาคารโรงพยาบาล แม้จะเป็นอาคารเหมือนกัน มีโครงสร้างหลักแบบเสา-คานเหมือนกัน แต่ถือเป็นงานคนละประเภทอย่างชัดเจน เหมือนกันตรงไหน? • ทั้งสองเป็น “อาคาร” มีโครงสร้างเสา-คานคล้ายกัน ต่างกันตรงไหน? • เทคนิคก่อสร้างโรงพยาบาลซับซ้อนกว่ามาก • ต้องมีระบบควบคุมคุณภาพอากาศ ห้องปลอดเชื้อ ระบบไฟฟ้าฉุกเฉิน ระบบก๊าซทางการแพทย์ ฯลฯ • ต้องมีระบบกันเสียง กันสั่นสะเทือน และความปลอดภัยที่สูงกว่าอาคารตลาด ดังนั้น แม้จะเป็นอาคารเหมือนกัน และใช้โครงสร้างเสา-คานคล้ายกัน แต่ผู้รับจ้างที่เคยสร้างตลาดสด ไม่สามารถใช้ผลงานนั้นมายื่นสร้างโรงพยาบาลได้ เพราะโรงพยาบาลต้องใช้เทคนิคก่อสร้างที่ซับซ้อนกว่ามาก ลักษณะการใช้งาน แม้ว่าจะใช้งานคล้ายกัน แต่ถ้าเทคนิคก่อสร้างไม่เหมือนกัน ผลงานก็ไม่สามารถใช้แทนกันได้ ตัวอย่างที่ 3: กำแพงกันดินในงานทาง vs. กำแพงกันดินในงานอาคาร แม้ว่าหลักเกณฑ์ราคากลางจะแยกเป็น “งานทาง” และ “งานอาคาร” และใช้ค่า Factor F คนละตัว แต่ถ้าทั้งเทคนิค โครงสร้าง และลักษณะการใช้งานเหมือนกัน ก็ถือเป็นงานประเภทเดียวกันได้ กรณีที่เป็นงานประเภทเดียวกัน • เทคนิคการก่อสร้างเหมือนกัน → ใช้โครงสร้างคอนกรีตเสริมเหล็กแบบเดียวกัน • โครงสร้างหลักเหมือนกัน → มีระบบระบายน้ำและฐานรากคล้ายกัน • ลักษณะการใช้งานเหมือนกัน → ป้องกันดินพังจากพื้นที่สูงกว่าพื้นที่ต่ำ กรณีที่เป็นงานคนละประเภท • เทคนิคการก่อสร้างแตกต่างกัน • กำแพงกันดินในงานทาง อาจเป็นแบบดันดิน หรือมีระบบเสริมแรงดิน • กำแพงกันดินในงานอาคาร อาจต้องรองรับน้ำหนักจากตัวอาคาร ดังนั้น หากเทคนิคแตกต่างกันมาก ก็ถือเป็นงานคนละประเภท หน่วยงานต้องระบุ “ผลงานประเภทเดียวกัน” ให้ชัดเจน หน่วยงานมีหน้าที่ต้องเขียนให้ชัดเจนว่าผลงานประเภทเดียวกันคืออะไร เช่น หากต้องการอาคารไม้แบบสถาปัตยกรรมไทย → ต้องระบุชัดว่าต้องเป็นอาคารไม้แบบสถาปัตยกรรมไทย หากเป็นถนนแอสฟัลต์คอนกรีต → ต้องระบุว่าผู้รับจ้างต้องมีผลงานถนนแอสฟัลต์คอนกรีต หากไม่ระบุให้ชัดเจน อาจมีปัญหาภายหลัง • คณะกรรมการพิจารณาอุทธรณ์อาจตีความกว้าง ทำให้หน่วยงานได้ผู้รับจ้างที่ไม่มีประสบการณ์ตรง กรณีเสียงส่วนน้อย ควรบันทึกความเห็นแย้ง หากกรรมการพิจารณาผลมีความคิดเห็นแตกต่างกัน เสียงส่วนน้อยที่ไม่เห็นด้วย ต้องปฏิบัติตามระเบียบข้อ 27 ของระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ โดยต้องบันทึกความเห็นแย้งไว้ในรายงานการประชุม ดังนั้น ผลงานประเภทเดียวกันต้องพิจารณาจาก “เทคนิคการก่อสร้าง” โครงสร้างหลัก และลักษณะการใช้งานเป็นหลัก ไม่ใช่กลุ่มงานราคากลางหรือค่า Factor F ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K สัญญาก่อสร้างอาคารเรียน 19 ล้านบาท ค่าปรับผิดพลาด เสี่ยงทำให้รัฐเสียหาย! สัญญาก่อสร้างอาคารเรียน 19 ล้านบาท ค่าปรับผิดพลาด เสี่ยงทำให้รัฐเสียหาย!
สัญญาจ้างก่อสร้างนี้เป็นสัญญาก่อสร้างอาคารเรียน มูลค่า 19 ล้านบาท ค่าปรับต้องคิดที่อัตรา 0.1% ของมูลค่างาน = วันละ 19,000 บาท แต่หน่วยงานเขียนค่าปรับผิดพลาดในสัญญาเป็นวันละ 300 บาท ซึ่งผิดพลาดร้ายแรง! นอกจากนี้ สัญญายังมีข้อผิดพลาดอีกข้อสำคัญ โครงการนี้ใช้บุคลากรภาครัฐเป็นผู้ควบคุมงาน แต่ สัญญาจ้างก่อสร้างข้อ 17 กลับระบุค่าใช้จ่ายในการควบคุมงาน ซึ่งปกติจะใช้ในกรณีที่ต้องจ้างบุคคลภายนอกมาควบคุมงานเท่านั้น กรณีนี้เมื่อใช้บุคลากรของรัฐควบคุมงานเอง ก็ไม่ต้องระบุค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลงไป สัญญาจ้างก่อสร้างข้อ 17 ในสัญญานี้ จึงมีข้อผิดพลาด 2 ประเด็นใหญ่ ค่าปรับที่กำหนดผิดพลาดอย่างรุนแรง ทำให้หน่วยงานรัฐเสียเปรียบ ระบุค่าใช้จ่ายในการควบคุมงานโดยไม่จำเป็น และในช่วงที่ผู้รับจ้างทำงานล่าช้า ค่าตอบแทนผู้ควบคุมงานของรัฐ ถือเป็นค่าความเสียหายที่หน่วยงานของรัฐต้องบังคับคืนจากผู้รับจ้าง ตามสัญญาจ้างก่อสร้างข้อ 19 กรณีนี้เป็นตัวอย่างสำคัญที่ทุกหน่วยงานต้องระวัง! การทำสัญญาต้องตรวจสอบให้ถูกต้อง ไม่เช่นนั้นอาจทำให้รัฐเสียหายโดยไม่รู้ตัว! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K กำหนดค่าปรับผิดพลาด ในสัญญาก่อสร้างอาคารเรียน ผู้รับจ้างไม่ยอมแก้สัญญา สามารถแก้ไขสัญญาฝ่ายเดียวได้หรือไม่? กรณีกำหนดค่าปรับผิดพลาดในสัญญาก่อสร้างอาคารเรียน ผู้รับจ้างไม่ยอมแก้สัญญา หน่วยงานสามารถแก้ไขสัญญาได้หรือไม่?
คำถาม: : โครงการก่อสร้างอาคารเรียน วงเงินสัญญา 19,000,000 บาท สัญญาจ้างก่อสร้างข้อ 17 ระบุ ค่าปรับล่าช้าวันละ 300 บาท ซึ่งต่ำกว่าหลักเกณฑ์ที่ถูกต้อง ตามระเบียบข้อ 162 ค่าปรับต้องอยู่ในช่วง 0.01 - 0.10% ของราคางานจ้าง → ค่าปรับที่ถูกต้องควรเป็น 19,000 บาท/วัน ขณะนี้งานก่อสร้างแล้วเสร็จ และคณะกรรมการตรวจรับได้ตรวจรับงานไปแล้ว อยู่ระหว่างกระบวนการเบิกจ่ายเงิน หน่วยงานต้องการแก้ไขสัญญาให้ถูกต้อง และแจ้งให้ผู้รับจ้างยินยอมแก้ไขสัญญา แต่ผู้รับจ้างไม่ยินยอม และยืนยันว่าต้องใช้ค่าปรับ 300 บาท/วันตามที่ระบุในสัญญา ในกรณีนี้ หน่วยงานสามารถแก้ไขสัญญาได้หรือไม่? และผู้รับจ้างสามารถใช้สิทธิ์ทางศาลเพื่อเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างไร? คำตอบ: เงื่อนไขในประกาศประกวดราคา กำหนดให้ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบ เงื่อนไขในประกาศประกวดราคา “ในระหว่างระยะเวลาการก่อสร้าง ผู้ยื่นข้อเสนอที่ได้รับการคัดเลือกให้เป็นผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายและระเบียบได้กำหนดไว้โดยเคร่งครัด” ข้อกำหนดนี้มีผลผูกพันทางกฎหมาย เพราะผู้รับจ้างได้ยอมรับเงื่อนไขดังกล่าวตั้งแต่การเข้าร่วมประกวดราคา ดังนั้น หากสัญญามีข้อผิดพลาดที่ขัดต่อกฎหมายและระเบียบ ผู้รับจ้างไม่มีสิทธิ์ยืนยันให้ใช้เงื่อนไขที่ผิดพลาดนั้น แม้ว่าสัญญาระบุค่าปรับผิดพลาดเป็น 300 บาท/วัน แต่หากขัดต่อระเบียบข้อ 162 ซึ่งกำหนดให้ค่าปรับต้องอยู่ในช่วง 0.01 - 0.10% ของราคางาน ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามระเบียบดังกล่าวโดยไม่มีข้อยกเว้น การที่ผู้รับจ้างยืนยันให้ใช้ค่าปรับที่ผิดพลาด ถือเป็นการขัดต่อเงื่อนไขในประกาศประกวดราคา และขัดต่อหลักกฎหมายที่ใช้บังคับ การแก้ไขสัญญาตามมาตรา 97 และหลักการของสัญญาทางปกครอง 2.1 การใช้มาตรา 97 ในการแก้ไขสัญญา มาตรา 97 ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ระบุว่า: “สัญญาหรือข้อตกลงเป็นหนังสือที่ได้ลงนามแล้วจะแก้ไขไม่ได้ เว้นแต่ในกรณีที่มีความจำเป็นและเป็นไปเพื่อประโยชน์ของรัฐ” 2.2 หลักการของสัญญาทางปกครองที่ให้เอกสิทธิ์แก่ฝ่ายรัฐในการแก้ไขสัญญาฝ่ายเดียว โครงการนี้เป็นสัญญาทางปกครอง เนื่องจากเป็นโครงการก่อสร้างอาคารเรียน ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานเพื่อการบริการสาธารณะ สัญญาทางปกครองมีลักษณะพิเศษแตกต่างจากสัญญาทางแพ่ง โดยให้ฝ่ายรัฐมีเอกสิทธิ์ในการแก้ไขสัญญาฝ่ายเดียว หากเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐและประชาชน ดังนั้น การแก้ไขสัญญาฝ่ายเดียวในกรณีนี้ ไม่ได้อาศัยเพียงมาตรา 97 เท่านั้น แต่ยังอาศัยหลักการพื้นฐานของสัญญาทางปกครองที่มีเอกสิทธิ์เหนือคู่สัญญาภาคเอกชน การแก้ไขสัญญาเพื่อให้ค่าปรับเป็นไปตามกฎหมาย ถือเป็นการใช้เอกสิทธิ์ของรัฐในสัญญาทางปกครอง ซึ่งสามารถดำเนินการได้แม้ผู้รับจ้างไม่ยินยอม กรณีนี้สามารถแก้ไขสัญญาหลังการตรวจรับได้หรือไม่? 3.1 หลักทั่วไปเกี่ยวกับการแก้ไขสัญญาหลังการตรวจรับ โดยปกติ การแก้ไขสัญญาควรกระทำก่อนการตรวจรับครั้งสุดท้าย เพื่อป้องกันปัญหาการเปลี่ยนแปลงเนื้องาน หรือเงื่อนไขสำคัญของสัญญาหลังจากที่มีการตรวจรับไปแล้ว 3.2 ข้อยกเว้นในกรณีนี้ การแก้ไขค่าปรับ ไม่ใช่การเปลี่ยนแปลงเนื้องานที่ตรวจรับไปแล้ว → ไม่มีผลกระทบต่อคุณภาพของงาน มาตรา 181 ของระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง ระบุว่า แม้ตรวจรับแล้ว หน่วยงานยังสามารถเรียกค่าปรับที่ถูกต้องได้ ดังนั้น การแก้ไขหลังตรวจรับสามารถทำได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายเงิน และเป็นการแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมาย การแก้ไขสัญญาหลังตรวจรับในกรณีนี้ ไม่ขัดต่อหลักการตรวจรับพัสดุ เพราะไม่มีผลกระทบต่อเนื้องาน และเป็นเพียงการแก้ไขเงื่อนไขทางกฎหมายให้ถูกต้อง สิทธิของผู้รับจ้างในการคัดค้าน และแนวทางการใช้สิทธิ์ทางศาล 4.1 ผู้รับจ้างมีสิทธิ์ยื่นฟ้องศาลปกครอง หากเห็นว่าไม่ได้รับความเป็นธรรม ผู้รับจ้างสามารถยื่นฟ้องศาลปกครองเพื่อขอให้ศาลพิจารณาว่า การแก้ไขสัญญาของรัฐชอบด้วยกฎหมายหรือไม่ ผู้รับจ้างได้รับความเสียหายที่ต้องได้รับการชดเชยหรือไม่ 4.2 ข้อจำกัดในการฟ้องร้องของผู้รับจ้าง หากการแก้ไขสัญญาของหน่วยงานรัฐเป็นไปเพื่อรักษาผลประโยชน์ของรัฐ และเป็นไปตามกฎหมาย ศาลอาจพิพากษายืนตามการแก้ไขของหน่วยงาน หากศาลเห็นว่าผู้รับจ้างได้รับผลกระทบที่ไม่เป็นธรรม อาจมีคำสั่งให้หน่วยงานพิจารณาชดเชยความเสียหายตามหลักความเป็นธรรม สรุปแนวทางปฏิบัติ หน่วยงานสามารถแก้ไขสัญญาได้ เพราะสัญญายังมีผลผูกพัน และต้องเป็นไปตามกฎหมาย โครงการนี้เป็นสัญญาทางปกครอง → ฝ่ายรัฐมีเอกสิทธิ์ในการแก้ไขสัญญาฝ่ายเดียว แม้ว่าผู้รับจ้างไม่ยินยอม หน่วยงานสามารถแก้ไขสัญญาหลังตรวจรับได้ ตราบใดที่ยังไม่ได้เบิกจ่ายเงิน และเป็นการแก้ไขให้เป็นไปตามกฎหมาย ผู้รับจ้างสามารถฟ้องศาลปกครองได้ แต่หากการแก้ไขของรัฐเป็นไปตามกฎหมาย ศาลอาจยกฟ้อง ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K ว78: การใช้พัสดุภายในประเทศ การกำหนดในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง การเสนอแผนของผู้รับจ้าง และการตรวจรับพัสดุ ว78: การใช้พัสดุภายในประเทศ การกำหนดในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง การเสนอแผนของผู้รับจ้าง และการตรวจรับพัสดุ
https://www.yotathai.com/passadu/w-78 <ว78 แบบรูปรายการงานก่อสร้างคืออะไร? ใครเป็นผู้รับผิดชอบ? แบบรูปรายการงานก่อสร้าง หมายถึง “แบบแปลนก่อสร้าง” และ “รายการประกอบแบบ” ซึ่งเป็นเอกสารที่กำหนดรายละเอียดเกี่ยวกับโครงการก่อสร้าง เช่น โครงสร้าง ขนาดงาน วัสดุที่ต้องใช้ และมาตรฐานทางเทคนิค เพื่อให้ผู้รับจ้างใช้เป็นแนวทางดำเนินการก่อสร้างให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด การจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างเป็นหน้าที่ของคณะกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ตาม ระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ ข้อ 21 วรรคสาม ซึ่งเป็นคณะกรรมการที่มีหน้าที่รับผิดชอบในการออกแบบ และถือเป็นเอกสารอันเป็นส่วนหนึ่งของสัญญาตามข้อ 2 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง เงื่อนไขการใช้พัสดุภายในประเทศต้องเขียนลงไปในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ไม่ใช่เขียนลงไปในร่างรายละเอียดขอบเขตงานทั้งโครงการตามแนวทางที่สองของ ว159 ต้องระบุเงื่อนไขการใช้พัสดุภายในประเทศในแบบรูปรายการงานก่อสร้างทุกโครงการหรือไม่? คำตอบ: ต้องระบุเสมอ หากมีพัสดุที่ผลิตในประเทศ หลักเกณฑ์สำคัญตาม ว78: • หน่วยงานของรัฐต้องกำหนด ในแบบรูปรายการก่อสร้างว่า ต้องใช้พัสดุที่ผลิตในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของมูลค่าพัสดุทั้งหมดที่ใช้ในงานก่อสร้าง • สำหรับเหล็ก หน่วยงานของรัฐต้องกำหนดให้ ต้องใช้เหล็กที่ผลิตในประเทศไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของปริมาณเหล็กที่ต้องใช้ในงานก่อสร้าง กรณียกเว้นที่ไม่ต้องระบุในแบบก่อสร้าง หากหน่วยงานของรัฐตรวจสอบล่วงหน้าแล้วพบว่าไม่มีพัสดุที่ผลิตในประเทศ และทำให้ไม่สามารถใช้วัสดุภายในประเทศได้ถึง 60% → ไม่ต้องระบุเงื่อนไขพัสดุภายในประเทศในแบบก่อสร้าง หากหน่วยงานของรัฐพบในภายหลัง (หลังออกแบบแล้ว) ว่าพัสดุไม่มีผลิตในประเทศ → สามารถระบุให้ใช้พัสดุนำเข้าได้โดยไม่ต้องขออนุมัติ หากพัสดุมีผลิตในประเทศ แต่หน่วยงานของรัฐเลือกไม่นำมาใช้ หรือใช้ไม่ถึง 60% → ต้องขออนุมัติจากผู้มีอำนาจ • ถ้าพัสดุนำเข้ามีราคาต่อหน่วย ≤ 2 ล้านบาท → ขออนุมัติจาก หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ • ถ้าพัสดุนำเข้ามีราคาต่อหน่วย > 2 ล้านบาท → ขออนุมัติจาก ผู้มีอำนาจสูงขึ้น แม้ว่าโครงการจะมีวงเงินไม่เกิน 500,000 บาท หรือระยะเวลาก่อสร้างไม่เกิน 60 วัน หน่วยงานของรัฐยังคงต้องระบุลงไปในแบบรูปรายการงานก่อสร้างว่าผู้รับจ้างต้องใช้วัสดุภายในประเทศตามเงื่อนไขที่กำหนด สรุป: แบบรูปรายการก่อสร้างต้องกำหนดเงื่อนไขพัสดุภายในประเทศเสมอหากมีผลิตในประเทศ แม้ว่าวงเงินจะไม่เกิน 500,000 บาท หรือระยะเวลาก่อสร้างจะไม่เกิน 60 วันก็ตาม ผู้รับจ้างต้องเสนอแผนการใช้พัสดุภายในประเทศทุกโครงการหรือไม่? คำตอบ: ไม่ต้องทำแผนทุกโครงการ แต่มีเกณฑ์กำหนดว่ากรณีใดที่ต้องทำและกรณีใดที่ได้รับการยกเว้น หลักเกณฑ์สำคัญเกี่ยวกับการทำแผนพัสดุของผู้รับจ้าง ผู้รับจ้างต้องทำแผนหาก • งานก่อสร้างมี วงเงินเกิน 500,000 บาท • สัญญามีอายุ เกิน 60 วัน • ต้องเสนอแผน ภายใน 60 วัน หลังลงนามในสัญญา ผู้รับจ้างไม่ต้องทำแผนหาก • วงเงินโครงการ ≤ 500,000 บาท • ระยะเวลาก่อสร้าง ≤ 60 วัน ความหมายของแผนพัสดุที่ผู้รับจ้างต้องจัดทำ การจัดทำแผนพัสดุภายในประเทศ หมายถึง การที่ผู้รับจ้างเลือกว่าจะใช้วัสดุรายการใดมานับเป็นวัสดุภายในประเทศให้ครบตามสัดส่วนที่กำหนดในแบบแปลน เพื่อให้สอดคล้องกับข้อกำหนดที่หน่วยงานของรัฐกำหนดไว้ ข้อสำคัญ: แม้จะได้รับการยกเว้นจากการทำแผน ผู้รับจ้างยังคงต้องใช้พัสดุภายในประเทศตามที่กำหนดในแบบก่อสร้าง สรุป: การทำแผนเป็นเรื่องของเอกสารเพิ่มเติม ไม่ใช่ข้อยกเว้นในการใช้พัสดุภายในประเทศ การยกเว้นการทำแผน เป็นเพียงมาตรการลดภาระของผู้รับจ้าง แต่ไม่ได้ยกเว้นการใช้พัสดุภายในประเทศ หน้าที่ของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และการดำเนินการหากผู้รับจ้างไม่สามารถใช้วัสดุตามสัดส่วนที่กำหนดในแบบรูปรายการก่อสร้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุต้องตรวจสอบว่า ผู้รับจ้างใช้พัสดุภายในประเทศตามแบบรูปรายการก่อสร้าง แม้จะไม่ต้องทำแผนก็ตาม หากพบว่าพัสดุที่ใช้จริง ไม่ครบตามสัดส่วนที่กำหนดในแบบก่อสร้าง (ไม่น้อยกว่าร้อยละ 60 ของพัสดุทั้งหมด และไม่น้อยกว่าร้อยละ 90 ของเหล็ก) → ต้องปฏิเสธการตรวจรับ และเสนอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาแก้ไขสัญญาก่อน หากผู้รับจ้างไม่สามารถใช้วัสดุตามสัดส่วนที่กำหนดในแบบรูปรายการก่อสร้าง ต้องดำเนินการดังนี้ กรณีที่ต้องการเปลี่ยนแปลง “แผนพัสดุ” แต่ยังคงใช้วัสดุภายในประเทศให้ครบตามสัดส่วนที่กำหนด สามารถเปลี่ยนแปลงรายการวัสดุที่ใช้ได้ โดยไม่ต้องแก้ไขสัญญา กรณีที่ผู้รับจ้างไม่สามารถใช้วัสดุภายในประเทศให้ครบตามสัดส่วนที่กำหนดในแบบก่อสร้าง ต้องแก้ไขสัญญาเท่านั้น (ตามมาตรา 97) คณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่สามารถตรวจรับงานได้ จนกว่าจะมีการแก้ไขสัญญา สรุป: การใช้พัสดุภายในประเทศเป็นข้อบังคับในสัญญา ไม่ใช่แค่แผนพัสดุ! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K การอนุมัติให้ใช้วัสดุก่อสร้างเป็นอำนาจของใคร? และงานก่อสร้างจำเป็นต้องขออนุมัติทุกวัสดุหรือไม่? การอนุมัติวัสดุก่อสร้างเป็นอำนาจของใคร? จำเป็นต้องขออนุมัติทุกวัสดุหรือไม่?
คำถามสำคัญที่หน่วยงานของรัฐต้องเข้าใจให้ถูกต้อง 1. ผู้รับจ้างขออนุมัติใช้วัสดุ เป็นอำนาจของใครในการพิจารณาอนุมัติ? 2. ผู้รับจ้างต้องขออนุมัติวัสดุทุกประเภทหรือไม่? 3. กรณีผู้รับจ้างขอใช้วัสดุที่มีคุณภาพเทียบเท่าหรือดีกว่า แต่มีราคาต่ำกว่า วัสดุสามารถอนุมัติให้ใช้ได้หรือไม่? 4. หากหน่วยงานกำหนดให้ต้องส่งตัวอย่างเหล็กเสริมคอนกรีตพร้อมผลทดสอบก่อนนำมาใช้ ใครเป็นผู้อนุมัติ? 5. กรณีที่การพิจารณาอนุมัติวัสดุล่าช้า ผู้รับจ้างต้องทำอย่างไรเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม? 6. เพื่อป้องกันปัญหาความล่าช้าและความไม่ชัดเจน ควรเขียนกำหนดไว้ในแบบรูปรายการงานก่อสร้างหรือไม่ว่าวัสดุใดต้องขออนุมัติก่อนใช้งาน? 7. คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างควรมีบทบาทเชิงรุกอย่างไรเพื่อให้การอนุมัติวัสดุรวดเร็วและไม่กระทบต่อโครงการ? 8. การพิจารณาอนุมัติวัสดุที่ล่าช้า ทำให้ผู้รับจ้างได้รับผลกระทบอย่างไร และผู้รับจ้างสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมได้หรือไม่? บทความนี้จะให้คำตอบที่ชัดเจนตามหลักกฎหมาย เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจหน้าที่ของตนเอง และป้องกันปัญหาในโครงการก่อสร้าง อำนาจในการพิจารณาอนุมัติวัสดุก่อสร้างเป็นของใคร? อ้างอิงตามกฎหมายมาตรา 100 แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐมีหน้าที่แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเพื่อบริหารสัญญาและตรวจรับวัสดุ ไม่ได้มีอำนาจโดยตรงในการอนุมัติวัสดุเอง อ้างอิงตาม ว214 การพิจารณาวัสดุที่ผู้รับจ้างเสนอเป็นอำนาจของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หากเป็นวัสดุที่สามารถเทียบเท่าหรือดีกว่า ผู้รับจ้างต้องนำเสนอเพื่อให้คณะกรรมการตรวจสอบและพิจารณาคุณสมบัติ สรุป: การอนุมัติวัสดุในงานก่อสร้างเป็นอำนาจของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ไม่ใช่อำนาจของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผู้ว่าจ้าง หากผู้บริหารของหน่วยงานเข้าไปตัดสินใจแทน อาจถือเป็นการแทรกแซงกระบวนการตรวจรับ และอาจขัดต่อหลักกฎหมาย ควรกำหนดวัสดุที่ต้องขออนุมัติไว้ในแบบรูปรายการงานก่อสร้างหรือไม่? เพื่อให้การทำงานมีความชัดเจน ลดปัญหาการตีความ ควรกำหนดในแบบรูปรายการงานก่อสร้างว่าวัสดุใดต้องขออนุมัติก่อนใช้งาน แนวทางที่ควรดำเนินการ: ในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ควรกำหนดประเภทวัสดุที่ต้องขออนุมัติก่อนใช้งาน เช่น • วัสดุที่กำหนดยี่ห้อ หรือรุ่น เช่น A, B, C ตามที่ออกแบบไว้ • วัสดุที่ต้องมีการทดสอบก่อนนำไปใช้งาน เช่น เหล็กเสริมคอนกรีต • วัสดุที่มีผลต่อความปลอดภัยของโครงสร้าง เช่น วัสดุโครงสร้างหลักของอาคาร เช่น เหล็กเสริมคอนกรีต พื้นโพสต์เทนชั่น หรืองานกันซึมดาดฟ้า ผลดีของการกำหนดในแบบรูปรายการก่อสร้าง: ทำให้ผู้รับจ้างทราบตั้งแต่ต้นว่าวัสดุใดต้องขออนุมัติ ลดข้อโต้แย้งและลดความล่าช้า ช่วยให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุสามารถพิจารณาวัสดุได้รวดเร็วขึ้น การพิจารณาวัสดุที่ล่าช้า ส่งผลกระทบต่อผู้รับจ้างอย่างไร? ปัญหาที่พบในหลายโครงการ: หน่วยงานไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้รับจ้างในการขอขยายเวลา แม้ว่าความล่าช้าเกิดจากฝ่ายผู้ว่าจ้างเอง ผู้รับจ้างต้องรอการอนุมัติวัสดุจากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ แต่หน่วยงานกลับไม่ขยายเวลาให้ ทำให้ต้องเร่งงาน และอาจถูกปรับความล่าช้าโดยไม่เป็นธรรม ผู้รับจ้างสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมได้อย่างไร? สามารถขอขยายเวลาก่อสร้างตามสัญญาจ้างก่อสร้างข้อ 21 ได้ ต้องขอใช้สิทธิ์ภายใน 15 วัน หลังจากเหตุสิ้นสุด มิฉะนั้นอาจเสียสิทธิ์ หากหน่วยงานไม่ให้ความเป็นธรรม ผู้รับจ้างสามารถฟ้องศาลเพื่อของดหรือลดค่าปรับได้ ข้อแนะนำ: ควรทำหนังสือแจ้งฝ่ายผู้ว่าจ้างให้รับทราบว่า ความล่าช้าเกิดจากการพิจารณาอนุมัติวัสดุ เพื่อใช้เป็นหลักฐานในการขอขยายเวลาก่อสร้าง หากหน่วยงานไม่ขยายเวลาให้โดยไม่มีเหตุผล ผู้รับจ้างสามารถใช้สิทธิ์ตามกฎหมายเพื่อปกป้องสิทธิ์ของตนเอง บทสรุปที่ชัดเจน การอนุมัติวัสดุก่อสร้างเป็นอำนาจของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ไม่ใช่ของหัวหน้าหน่วยงานของรัฐหรือผู้ว่าจ้าง ควรกำหนดให้วัสดุที่ขอใช้แทนต้องมีราคาสูงกว่าหรือเทียบเท่า เพื่อป้องกันปัญหาผู้รับจ้างเสนอของที่ถูกกว่ามาเทียบ หน่วยงานควรกำหนดในแบบรูปรายการก่อสร้างว่าวัสดุใดต้องขออนุมัติก่อนใช้ เพื่อลดปัญหาความล่าช้า คณะกรรมการตรวจรับพัสดุควรประชุมติดตามโครงการทุกสัปดาห์ และพิจารณาอนุมัติวัสดุควบคู่ไปด้วย หากหน่วยงานไม่ให้ความเป็นธรรมกับผู้รับจ้างในการขอขยายเวลา ผู้รับจ้างสามารถฟ้องร้องเพื่อของดหรือลดค่าปรับได้ เข้าใจหน้าที่ของแต่ละฝ่ายให้ถูกต้อง ป้องกันปัญหาความล่าช้าในโครงการก่อสร้าง และให้ความเป็นธรรมกับผู้รับจ้าง ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K การเก็บตัวอย่างคอนกรีตเพื่อการทดสอบ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ? และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องเป็นอย่างไร การเก็บตัวอย่างคอนกรีตเพื่อการทดสอบ ใครเป็นผู้รับผิดชอบ? และแนวทางปฏิบัติที่ถูกต้อง
บทนำ : การทดสอบกำลังอัดของคอนกรีต เป็นขั้นตอนสำคัญในงานก่อสร้าง เพื่อให้มั่นใจว่าคอนกรีตที่ใช้มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานที่กำหนด หนึ่งในกระบวนการที่ต้องดำเนินการอย่างถูกต้องคือ การเก็บตัวอย่างคอนกรีตจากหน้างานเพื่อนำไปทดสอบ คำถามสำคัญที่มักเกิดขึ้นคือ: “ใครเป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บตัวอย่างคอนกรีต?” “แนวทางปฏิบัติที่ถูกต้องควรเป็นอย่างไร?” “ผู้ว่าจ้างหรือผู้รับจ้างต้องทำอะไรบ้าง?” บทความนี้จะอธิบายให้เข้าใจอย่างชัดเจน การเก็บตัวอย่างคอนกรีตเป็นหน้าที่ของใคร? 2.1 ผู้รับจ้างเป็นผู้รับผิดชอบหลัก ตามข้อกำหนดในสัญญาก่อสร้าง ผู้รับจ้างต้องเป็นผู้รับผิดชอบในการเก็บตัวอย่างคอนกรีต เนื่องจากเป็นผู้จัดหาคอนกรีต และต้องรับรองว่าวัสดุที่ใช้ตรงตามข้อกำหนดของสัญญา การเก็บตัวอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานที่อ้างอิงในแบบแปลนก่อสร้าง ต้องเก็บตัวอย่างจากคอนกรีตที่กำลังถูกเทลงแบบ ไม่ใช่จากส่วนที่เหลือในรถโม่ 2.2 ผู้ควบคุมงานของฝ่ายผู้ว่าจ้างต้องกำกับดูแล ตามมาตรา 101 แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ และข้อ 178 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ ผู้ควบคุมงานต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าผู้รับจ้างเก็บตัวอย่างถูกต้องตามแบบก่อสร้าง ต้องกำกับดูแลทุกขั้นตอน ไม่ใช่แค่สุ่มตรวจสอบภายหลัง ต้องมีการบันทึกข้อมูลหรือใช้ภาพถ่ายเป็นหลักฐานการเก็บตัวอย่าง ต้องลงนามรับรองการเก็บตัวอย่างทุกครั้ง เพื่อป้องกันการเปลี่ยนแปลงตัวอย่าง วิธีการเก็บตัวอย่างคอนกรีตที่ถูกต้อง 3.1 ควรเก็บตัวอย่างคอนกรีตเมื่อใด? ต้องเก็บตัวอย่างขณะเทคอนกรีต ไม่ใช่ก่อนหรือหลังจากเทเสร็จ จำนวนตัวอย่างต้องเป็นไปตามที่กำหนดในแบบก่อสร้าง หากแบบก่อสร้างไม่ได้ระบุจำนวนตัวอย่าง ผู้ควบคุมงานต้องยึดตามแนวทางปฏิบัติของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตัวอย่างต้องเก็บเป็นชุด (เช่น ชุดละ 3 ก้อน) ตามที่กำหนดในแบบก่อสร้าง 3.2 ขั้นตอนการเก็บตัวอย่างคอนกรีตที่ถูกต้อง การเก็บตัวอย่างคอนกรีตต้องเป็นไปตาม หลักมาตรฐานที่อ้างอิงในแบบแปลนก่อสร้าง ซึ่งโดยทั่วไปต้องดำเนินการดังนี้: การเตรียมแม่พิมพ์ ใช้แม่พิมพ์โลหะหรือพลาสติกที่แข็งแรง และมีขนาดตามมาตรฐานที่กำหนด (เช่น ลูกบาศก์ 150x150x150 มม. หรือ ทรงกระบอก Ø150x300 มม.) ต้องทำความสะอาดและทาน้ำมันกันติดก่อนหล่อคอนกรีต การตักและเทคอนกรีตลงแม่พิมพ์ แบ่งการเทคอนกรีตออกเป็นชั้น ๆ ตามมาตรฐานที่อ้างอิงในแบบก่อสร้าง แต่ละชั้นต้องมีการกระทุ้งเพื่อไล่อากาศ โดยใช้แท่งเหล็กกระทุ้งตามมาตรฐานที่กำหนดในแบบก่อสร้าง โดยทั่วไป การกระทุ้งอาจใช้ 25 ครั้งต่อชั้นสำหรับตัวอย่างทรงกระบอก และ 35 ครั้งสำหรับลูกบาศก์ แต่ต้องปฏิบัติตามมาตรฐานที่ระบุไว้ในแบบแปลนก่อสร้างเป็นหลัก การปรับแต่งผิวหน้าคอนกรีต ใช้เกรียงปรับแต่งให้เรียบเสมอกัน เขียนเครื่องหมายหรือหมายเลขบนตัวอย่างเพื่อป้องกันการสับสน และเพื่อให้ง่ายต่อการตรวจสอบภายหลัง การบ่มตัวอย่างคอนกรีตที่เหมาะสม หลังจากเก็บตัวอย่างแล้ว ต้องปล่อยทิ้งไว้ในแม่พิมพ์ในที่ร่มไม่เกิน 16-24 ชั่วโมงก่อนถอดแบบ (ตามที่ระบุในแบบก่อสร้าง) ต้องบ่มตัวอย่างในน้ำที่ควบคุมอุณหภูมิ หรือห่อด้วยวัสดุเปียกเพื่อรักษาความชื้นจนกว่าจะถึงเวลาทดสอบ ผู้ควบคุมงานต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่ากระบวนการบ่มเป็นไปตามมาตรฐานในแบบก่อสร้าง ต้องมีบันทึกเกี่ยวกับกระบวนการบ่ม เช่น วันที่เริ่มบ่ม และอุณหภูมิของน้ำบ่ม การนำส่งตัวอย่างคอนกรีตและการป้องกันการเปลี่ยนตัวอย่าง ทำเครื่องหมายบนตัวอย่าง เช่น ใช้สีพิเศษ หรือสลักหมายเลขโครงการ ต้องมีเอกสารลงนามรับรองตัวอย่างจากทั้งผู้รับจ้างและผู้ควบคุมงาน กำหนดให้ห้องปฏิบัติการทดสอบต้องบันทึกหมายเลขตัวอย่างที่รับไป เพื่อตรวจสอบย้อนกลับได้ ค่าใช้จ่ายในการทดสอบคอนกรีต ค่าใช้จ่ายในการทดสอบเป็นค่างานต้นทุนที่รวมอยู่ในราคากลางของงานก่อสร้าง ผู้รับจ้างไม่มีสิทธิ์เรียกเก็บค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากผู้ว่าจ้าง ค่าใช้จ่ายในการนำส่งตัวอย่างเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้าง ไม่ใช่ของหน่วยงานผู้ว่าจ้าง บทสรุป การเก็บตัวอย่างคอนกรีตเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้าง แต่ต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้ว่าจ้าง ผู้ควบคุมงานต้องตรวจสอบการเก็บตัวอย่าง การบ่ม และการนำส่งตัวอย่างให้เป็นไปตามแบบก่อสร้าง การทำเครื่องหมายบนตัวอย่างและการควบคุมการนำส่งเป็นมาตรการสำคัญในการป้องกันการเปลี่ยนตัวอย่าง แนวทางนี้ช่วยให้มั่นใจว่าการควบคุมคุณภาพคอนกรีตในโครงการก่อสร้างของภาครัฐเป็นไปอย่างถูกต้อง แม้ในหน่วยงานที่มีบุคลากรจำกัด อ่านให้เข้าใจ และปฏิบัติให้ถูกต้อง เพื่อคุณภาพของงานก่อสร้างที่มั่นคงและปลอดภัย! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K การกำหนดห้ามทำงานวันอาทิตย์ในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง และการคิดค่าปรับเมื่อผู้รับจ้างทำงานล่าช้า การกำหนดห้ามทำงานวันอาทิตย์ในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง และการคิดค่าปรับเมื่อผู้รับจ้างทำงานล่าช้า
บทนำ: ทำไมต้องกำหนดให้วันอาทิตย์เป็นวันหยุดในงานก่อสร้างภาครัฐ? การกำหนดให้ “วันอาทิตย์เป็นวันหยุด และห้ามผู้รับจ้างทำงาน” ลงใน แบบรูปรายการงานก่อสร้าง เป็นแนวทางที่ ฝ่ายผู้ว่าจ้างควรกำหนดให้ชัดเจน เพื่อสร้างความแน่นอนในการบริหารงานก่อสร้าง เหตุผลสำคัญที่ควรกำหนดให้วันอาทิตย์เป็นวันหยุด มาตรฐานแรงงาน: แรงงานก่อสร้างควรได้รับการพักผ่อนตามหลักมนุษยธรรม ลดภาระฝ่ายควบคุมงาน: เจ้าหน้าที่รัฐที่ต้องควบคุมงานไม่จำเป็นต้องเข้าปฏิบัติหน้าที่ในวันหยุด ป้องกันปัญหาคุณภาพงาน: ลดโอกาสที่ผู้รับจ้างจะแอบทำงานโดยไม่มีการควบคุม ทำให้แผนงานชัดเจนขึ้น: ระบุในเอกสารแบบรูปรายการงานก่อสร้าง จะช่วยให้ทุกฝ่ายเข้าใจตรงกัน การคำนวณระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา วิธีคำนวณระยะเวลาก่อสร้างที่รวมวันหยุดวันอาทิตย์แล้ว ตัวอย่างการคำนวณระยะเวลาก่อสร้างตามหลักวิชาช่าง คำนวณเวลาทำงานจริง: • งานก่อสร้างต้องใช้เวลา 100 วันทำการ พิจารณาวันอาทิตย์ที่เป็นวันหยุด • ใน 100 วันทำการ มี วันอาทิตย์ 15 วัน • เพื่อให้ผู้รับจ้างได้รับเวลาทำงานเต็มที่ จึงต้องเพิ่มวันก่อสร้างอีก 15 วัน เพื่อชดเชยวันอาทิตย์ที่ห้ามทำงาน กำหนดระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญา • 100 วัน (เวลาทำงาน) + 15 วัน (วันอาทิตย์ที่ห้ามทำงาน) = 115 วัน • ในแบบรูปรายการงานก่อสร้างควรระบุว่า “ระยะเวลาก่อสร้างตามสัญญานี้ได้รวมวันหยุดวันอาทิตย์ให้ผู้รับจ้างแล้ว” วิธีการกำหนดวันอาทิตย์เป็นวันหยุด และเวลาทำงานในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ตัวอย่างการระบุในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง “วันอาทิตย์ถือเป็นวันหยุด และห้ามผู้รับจ้างดำเนินการก่อสร้างในวันดังกล่าว โดยเด็ดขาด” การกำหนดเวลาทำงานในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง “เวลาทำงานของผู้รับจ้างตามสัญญานี้คือ วันจันทร์ถึงวันเสาร์ ตั้งแต่เวลา 07:00 น. ถึง 17:00 น. กรณีที่ผู้รับจ้างต้องการทำงานนอกเวลาดังกล่าว ผู้รับจ้างต้องขออนุญาตเป็นหนังสือต่อผู้ว่าจ้างไม่น้อยกว่า 3 วันล่วงหน้า และหากมีค่าใช้จ่ายในการจ่ายค่าทำงานล่วงเวลาหรือค่าตอบแทนให้กับผู้ควบคุมงานเพิ่มเติมในช่วงที่ไม่ใช่เวลาตามสัญญานี้ ผู้รับจ้างจะต้องเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด” ข้อดีของการกำหนดแบบนี้ ทำให้ผู้รับจ้างตระหนักว่าต้องทำงานในช่วงเวลาที่กำหนด ซึ่งเป็นเวลาทำงานของบริษัทรับเหมาก่อสร้างทั่วไป ป้องกันการทำงานที่ไม่มีการควบคุมในช่วงเวลาที่ไม่ได้กำหนด ลดภาระของฝ่ายผู้ว่าจ้างในการจัดเจ้าหน้าที่ควบคุมงานนอกเวลา ถ้าผู้รับจ้างทำงานล่าช้า ค่าปรับต้องถูกคิดวันอาทิตย์หรือไม่? ค่าปรับต้องถูกคิดทุกวัน รวมถึงวันอาทิตย์ด้วย เหตุผลที่ต้องคิดค่าปรับวันอาทิตย์: ค่าปรับเป็นบทลงโทษสำหรับ ความล่าช้าของผู้รับจ้าง ไม่ใช่ค่าตอบแทนการทำงาน รัฐได้รับความเสียหายทุกวัน แม้เป็นวันอาทิตย์ เพราะโครงการถูกส่งมอบล่าช้า ทำให้ประชาชนไม่ได้รับประโยชน์จากโครงการ หากไม่คิดค่าปรับวันอาทิตย์ อาจเกิดช่องโหว่ให้ผู้รับจ้างเจตนายืดงานออกไปเพื่อลดค่าปรับ แม้ว่าผู้ว่าจ้างห้ามทำงานวันอาทิตย์ แต่ค่าปรับต้องคิดทุกวันเพราะรัฐไม่ได้รับงานตามกำหนด ตัวอย่างกรณีศึกษาสมมติ กำหนดระยะเวลาก่อสร้างในสัญญา: • งานต้องแล้วเสร็จภายใน 115 วัน • หากเกินกำหนด จะคิดค่าปรับวันละ 10,000 บาท สมมติผู้รับจ้างส่งงานล่าช้า 10 วัน • จากวันที่ 115 → งานเสร็จในวันที่ 125 • ใน 10 วันที่ล่าช้า มีวันอาทิตย์ 2 วัน • หากไม่คิดค่าปรับวันอาทิตย์ รัฐจะเสียโอกาส 20,000 บาท (2x10,000 บาท) • แต่เมื่อค่าปรับต้องถูกคิดทุกวัน รัฐจะได้รับค่าปรับเต็มจำนวน 100,000 บาท (10x10,000 บาท) ฟันธง! เหตุผลที่ค่าปรับต้องถูกคิดทุกวัน ไม่เว้นวันอาทิตย์ 1. รัฐไม่ได้ผิดอะไรที่ต้องงดเว้นค่าปรับให้กับผู้รับจ้าง 2. วันอาทิตย์เป็นวันหยุดที่ถูกกำหนดไว้ในสัญญา ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตาม 3. แม้จะห้ามทำงานวันอาทิตย์ แต่ผู้รับจ้างต้องรับผิดชอบค่าปรับ เพราะเขาผิดสัญญาเอง 4. หากไม่คิดค่าปรับวันอาทิตย์ อาจเกิดช่องโหว่ให้ผู้รับจ้างจงใจเลื่อนงานล่าช้า เพื่อให้ค่าปรับลดลง ฟันธง! “วันอาทิตย์เป็นวันหยุดที่ห้ามทำงาน แต่ไม่ใช่วันหยุดของค่าปรับ!” แชร์บทความนี้เพื่อสร้างมาตรฐานที่ถูกต้องในงานก่อสร้างภาครัฐ! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K การระบุยี่ห้อวัสดุในงานจ้างก่อสร้าง ทำได้ ! แต่ต้องเป็นไปตามเงื่อนไข ว214 ใครมีอำนาจอนุมัติการขอเทียบเท่า? คลิกอ่านให้เคลียร์ การระบุยี่ห้อวัสดุในงานจ้างก่อสร้าง: เข้าใจให้ถูกต้องตาม ว214 (ลงวันที่ 18 พฤษภาคม 2563)
ในการจัดซื้อจัดจ้างงานก่อสร้างของภาครัฐ การระบุยี่ห้อวัสดุในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง เป็นประเด็นที่เจ้าหน้าที่รัฐหลายคนยังมีความเข้าใจผิดว่า “ห้ามระบุยี่ห้อโดยเด็ดขาด” ซึ่งไม่เป็นความจริง เพราะ ว214 ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่าสามารถทำได้ ภายใต้เงื่อนไขที่เหมาะสม  หลักการที่ถูกต้องตาม ว214 ว214 ซึ่งออกโดย คณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ได้กำหนดแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะหรือยี่ห้อของวัสดุไว้ ดังนี้ การกำหนดวัสดุในงานก่อสร้างสามารถทำได้ในกรณีต่อไปนี้: มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือมาตรฐานหน่วยงานรัฐอื่นที่เกี่ยวข้อง → สามารถระบุให้เป็นไปตามมาตรฐานนั้นได้ ไม่มีมาตรฐานอุตสาหกรรมกำหนดไว้ แต่มีความจำเป็นต้องใช้วัสดุที่มีคุณภาพดี และเป็นที่นิยมในขณะนั้น → สามารถระบุยี่ห้อวัสดุได้ แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 ยี่ห้อ ต้องถือเป็นหลักการว่า วัสดุที่มีคุณภาพเทียบเท่ากับยี่ห้อที่ระบุสามารถนำมาใช้ได้ โดยต้องผ่านการพิจารณาของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ แม้วัสดุจะมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม ก็ยังสามารถระบุยี่ห้อวัสดุได้ เพราะอะไร? แม้ว่าวัสดุบางประเภทจะมี มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) รองรับ แต่ไม่ได้หมายความว่าวัสดุทุกยี่ห้อที่ผ่านมาตรฐานเดียวกันจะมีคุณภาพเท่ากัน เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่าย ๆ เด็กที่เรียนได้เกรด A ไม่ได้หมายความว่าเก่งเท่ากันทุกคน • บางคนสอบได้ 80 คะแนน ได้เกรด A • บางคนสอบได้ 90 คะแนน ได้เกรด A • บางคนสอบได้ 100 คะแนน ได้เกรด A ในทำนองเดียวกัน วัสดุที่ผ่านมาตรฐานเดียวกันก็ไม่ได้มีคุณภาพเหมือนกันทั้งหมด • เช่น กระเบื้องปูพื้นจาก 3 ยี่ห้อ อาจผ่านมาตรฐาน มอก. เหมือนกัน แต่คุณภาพจริงอาจแตกต่างกันในแง่ของความทนทาน รอยขีดข่วน หรืออายุการใช้งาน ดังนั้น หน่วยงานภาครัฐยังมีสิทธิ์ที่จะระบุยี่ห้อวัสดุในแบบก่อสร้างได้ เพื่อให้มั่นใจว่าวัสดุที่ใช้ ตรงตามความต้องการของโครงการและเป็นที่ยอมรับในวงการก่อสร้าง แต่ต้องไม่น้อยกว่า 3 ยี่ห้อ เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเป็นธรรม กำหนดให้วัสดุที่ “เทียบเท่า” ต้องมีราคาเทียบเท่าหรือสูงกว่า ปัญหาที่มักเกิดขึ้นในทางปฏิบัติ • ผู้รับจ้างบางรายพยายาม เสนอวัสดุยี่ห้อที่ราคาถูกกว่ามาก แล้วอ้างว่าเป็นของ “เทียบเท่า” • บางยี่ห้อเป็น แบรนด์โนเนม หรือไม่มีความน่าเชื่อถือในวงการก่อสร้าง • แม้บางครั้งจะได้รับมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) แต่คุณภาพอาจ ไม่เป็นที่ยอมรับในวงการ แนวทางป้องกัน หน่วยงานรัฐควรกำหนดเพิ่มในแบบก่อสร้างว่า วัสดุที่นำมาเทียบเท่าต้องมี “คุณภาพดีกว่า หรือเทียบเท่า” และ “ราคาสูงกว่าหรือเทียบเท่า” กับวัสดุที่ระบุในแบบ ข้อแนะนำการใช้ถ้อยคำในแบบก่อสร้าง: “ยี่ห้อ A หรือ B หรือ C หรือที่มีคุณภาพดีกว่าหรือเทียบเท่า และราคาสูงกว่าหรือเทียบเท่า” ประโยชน์ของการกำหนดเงื่อนไขนี้ ลดปัญหาผู้รับจ้างนำวัสดุโนเนมราคาถูกมาใช้ ช่วยให้หน่วยงานรัฐมั่นใจว่าได้ของที่มีคุณภาพ ลดภาระของฝ่ายตรวจรับในการคัดกรองวัสดุที่ไม่ได้มาตรฐาน อำนาจการพิจารณาวัสดุเทียบเท่าเป็นของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ว214 ได้ระบุชัดเจนว่า “อำนาจในการพิจารณาวัสดุที่เทียบเท่าเป็นของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ”  หมายความว่า ไม่ใช่อำนาจของผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่อำนาจของผู้ควบคุมงาน และที่สำคัญที่สุด ผู้รับจ้างไม่มีสิทธิ์เลือกเองว่าวัสดุที่เสนอมาเทียบเท่าได้ เป็นอำนาจของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้างเท่านั้น การพิจารณาของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุให้ถือเป็นที่สิ้นสุด ทำไมต้องถือเป็นที่สุด? เพื่อให้โครงการก่อสร้างดำเนินต่อไปได้ ไม่ล่าช้าจากข้อโต้แย้งของผู้รับจ้าง ลดปัญหาความขัดแย้งที่อาจทำให้เกิดความเสียหายกับโครงการ สร้างความแน่นอนในกระบวนการตรวจรับพัสดุ คำว่า “สิ้นสุดเฉพาะคราวนั้น” หมายถึงอะไร? ไม่สามารถนำการอนุมัติให้ใช้วัสดุเทียบเท่าในโครงการหนึ่ง ไปใช้เป็นบรรทัดฐานในโครงการอื่นได้ หมายความว่า หากคณะกรรมการตรวจรับพัสดุพิจารณาให้ใช้วัสดุยี่ห้อ X แทนวัสดุที่ระบุในโครงการ A ได้ ไม่ได้หมายความว่าโครงการ B สามารถใช้วัสดุเดียวกันโดยอัตโนมัติ เมื่อคณะกรรมการพิจารณาแล้ว ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตาม และดำเนินงานให้เสร็จเพื่อให้การบริหารโครงการเป็นไปอย่างต่อเนื่อง สรุป การระบุยี่ห้อวัสดุในงานก่อสร้างของภาครัฐทำได้ แต่ต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดใน ว214 แม้มีมาตรฐาน มอก. หน่วยงานก็ยังมีสิทธิ์กำหนดยี่ห้อได้ วัสดุเทียบเท่าต้องมีคุณภาพดีกว่า หรือเทียบเท่า และราคาสูงกว่าหรือเทียบเท่า อำนาจพิจารณาเป็นของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุเท่านั้น ไม่ใช่ผู้ว่าจ้างหรือผู้ควบคุมงาน และผู้รับจ้างไม่มีสิทธิ์เลือกเอง คำตัดสินถือเป็นที่สุดเฉพาะคราวนั้น และไม่สามารถใช้เป็นบรรทัดฐานในโครงการอื่นได้ เจ้าหน้าที่รัฐควรเข้าใจและปฏิบัติตามแนวทางที่ถูกต้อง เพื่อให้ได้งานก่อสร้างที่มีคุณภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่หน่วยงานของรัฐและประชาชน ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K วัสดุก่อสร้าง มอก. กรณีมีผู้ขอ มอก. รายเดียว กำหนดลงในแบบก่อสร้างได้ไหม? มาดูคำตอบ ตาม พ.ร.บ. และระเบียบที่เกี่ยวข้องคำถาม: หากวัสดุที่ใช้มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) กำหนดไว้แล้ว และหน่วยงานของรัฐได้กำหนดเลข มอก. ลงในแบบก่อสร้างโดยมีเจตนาเพื่อประโยชน์ของราชการ ต่อมาพบว่ามีผู้ผลิตเพียงรายเดียวที่ได้รับการรับรอง มอก. กรณีนี้สามารถกระทำได้หรือไม่ และสอดคล้องกับพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ มาตรา 8 และ มาตรา 9, หนังสือ ว214 และข้อ 21 ของระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ หรือไม่?
คำตอบ: 1. การกำหนดเลข มอก. ในแบบก่อสร้างสามารถทำได้หรือไม่? สามารถทำได้ เนื่องจาก ข้อ 21 ของระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 กำหนดว่า • หากพัสดุนั้นมีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) หรือมาตรฐานที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หน่วยงานสามารถกำหนดให้พัสดุต้องเป็นไปตามมาตรฐานนั้นได้ • ข้อ 21 ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีผู้ผลิตจำนวนเท่าใดที่ได้รับการรับรอง มอก. ถึงจะสามารถกำหนด มอก. ลงในแบบก่อสร้างได้ ข้อสรุป: • หน่วยงานของรัฐสามารถกำหนดเลข มอก. ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนผู้ผลิตที่ได้รับการรับรอง มอก. • ไม่มีข้อกำหนดในระเบียบว่าหน่วยงานต้องตรวจสอบว่ามีผู้ผลิตกี่รายที่ได้รับ มอก. 2. ขัดต่อมาตรา 8 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ หรือไม่? มาตรา 8 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ กำหนดให้การจัดซื้อจัดจ้างต้องเป็นไปเพื่อ ประโยชน์สูงสุดของหน่วยงานของรัฐ โดยต้องมี ความคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพ และตรวจสอบได้ การกำหนดเลข มอก. เป็นไปเพื่อให้พัสดุมีคุณภาพ และเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ราชการ ซึ่งสอดคล้องกับหลักการของมาตรา 8 การใช้มาตรฐาน มอก. ทำให้เกิดความโปร่งใส และช่วยให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม โดยไม่มีการระบุยี่ห้อ ข้อสรุป: ไม่ขัดต่อมาตรา 8 เพราะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของราชการ และมีความโปร่งใส 3. ขัดต่อมาตรา 9 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ หรือไม่? มาตรา 9 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ ระบุว่า ห้ามกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุให้ใกล้เคียงกับยี่ห้อใด หรือของผู้ขายรายใดรายหนึ่งโดยเฉพาะ เว้นแต่มีเหตุผลอันสมควร หากการกำหนดเลข มอก. ส่งผลให้มีเพียงผู้ผลิตรายเดียวที่สามารถจัดหาพัสดุได้ และไม่มีเหตุผลรองรับ อาจเข้าข่ายเป็นการล็อกสเปก แต่หากการกำหนดเลข มอก. มีเหตุผลที่สมควร เช่น เพื่อรักษาคุณภาพของพัสดุ และหน่วยงานสามารถแสดงให้เห็นว่า มอก. เป็นมาตรฐานกลางที่ผู้ผลิตรายอื่นสามารถขอรับรองได้ ก็ไม่ถือเป็นการล็อกสเปก ข้อสรุป: • การกำหนดเลข มอก. ไม่ขัดต่อมาตรา 9 ตราบใดที่เป็นมาตรฐานกลางที่ผู้ผลิตทุกรายสามารถขอรับรองได้ • หน่วยงานไม่จำเป็นต้องแสดงหลักฐานว่าทำไมมีผู้ผลิตเพียงรายเดียว 4. สอดคล้องกับหนังสือ ว214 หรือไม่? หนังสือ ว214 กำหนดว่า หน่วยงานสามารถกำหนดให้พัสดุต้องผ่านมาตรฐาน มอก. ได้ หาก มอก. เป็นมาตรฐานกลางที่เปิดให้ผู้ผลิตรายอื่นสามารถขอรับรองได้ หนังสือ ว214 ไม่ได้กำหนดว่าต้องมีผู้ผลิตจำนวนเท่าใดที่ได้รับการรับรอง มอก. ข้อสรุป: • สามารถกำหนด มอก. ได้ โดยไม่ต้องคำนึงถึงจำนวนผู้ผลิตที่ได้รับการรับรอง 5. บทสรุปสุดท้าย การกำหนดเลข มอก. ลงในแบบก่อสร้างสามารถทำได้ หากเป็นมาตรฐานกลางที่ได้รับการรับรองจากหน่วยงานของรัฐ ไม่ขัดต่อมาตรา 8 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ เพราะเป็นไปเพื่อประโยชน์ของราชการ ไม่ขัดต่อข้อ 21 ของระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ เพราะสามารถกำหนดมาตรฐาน มอก. ได้โดยตรง สามารถทำได้ตามแนวทางของ ว214 ตราบใดที่ มอก. เป็นมาตรฐานที่ผู้ผลิตรายอื่นสามารถขอรับรองได้ ข้อควรระวัง: หน่วยงานไม่มีหน้าที่ต้องแสดงหลักฐานว่าทำไมมีผู้ผลิตเพียงรายเดียว เพราะเป็นเรื่องของกลไกตลาด หน่วยงานควรตรวจสอบข้อมูลจากสำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) เพื่อยืนยันว่ามาตรฐาน มอก. ที่กำหนดนั้นเป็นมาตรฐานที่ได้รับการรับรองแล้ว หากดำเนินการตามแนวทางนี้ หน่วยงานสามารถกำหนด มอก. ได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K รู้หรือไม่? คำว่า "แบบรูปรายการงานก่อสร้าง" กับ"แบบรูปและรายการละเอียด"ในการจัดจ้างก่อสร้างภาครัฐต่างกันอย่างไร! ความหมายของ “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” และ “แบบรูปและรายการละเอียด” ในงานก่อสร้างภาครัฐ
ในงานก่อสร้างภาครัฐ มีการใช้คำที่แตกต่างกันในการอ้างอิงถึงเอกสารที่กำหนดรายละเอียดของงานก่อสร้าง เช่น “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง”, “แบบรูปและรายการละเอียด”, “แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลน”, หรือ “แบบแปลนรายละเอียดงานจ้าง” แม้แต่ละกฎหมายและระเบียบจะใช้คำที่ต่างกัน แต่ทั้งหมดหมายถึง เอกสารที่กำหนดรายละเอียดของงานก่อสร้าง เพื่อให้แน่ใจว่างานที่ดำเนินการเป็นไปตามข้อตกลงในสัญญา และสามารถควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และตรวจรับงานได้อย่างถูกต้อง คำที่ใช้ในกฎหมายและระเบียบต่าง ๆ 1. พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 • ใช้คำว่า “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” • มาตรา 60 กำหนดว่า ก่อนดำเนินการจ้างก่อสร้าง หน่วยงานของรัฐต้องจัดให้มี “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” ซึ่งสามารถจัดทำเองหรือจ้างออกแบบและควบคุมงานได้ 2. ระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 • ใช้คำว่า “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” และ “แบบรูปรายการละเอียด” • ข้อ 21 และ ข้อ 22 ใช้คำว่า “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” ในบริบทของการกำหนดขอบเขตงานก่อนเริ่มการจ้าง • ข้อ 176 และ ข้อ 178 ใช้คำว่า “แบบรูปรายการละเอียด” ในบริบทของการควบคุมและตรวจรับงานก่อสร้าง • ข้อ 135 ใช้คำว่า “แบบแปลนรายละเอียดงานจ้าง” ในบริบทของการนำแบบไปใช้ในการก่อสร้างนอกเหนือจากสัญญาเดิม โดยหน่วยงานของรัฐต้องจ่ายค่าตอบแทนเพิ่มเติมให้แก่ผู้ออกแบบ 3. สัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน • ใช้คำว่า “แบบรูปและรายการละเอียด” • ข้อ 2.1 และ 2.2 ระบุว่า “แบบรูป” และ “รายการละเอียด” เป็นเอกสารแนบท้ายสัญญา ซึ่งใช้เป็นหลักฐานอ้างอิงสำหรับการดำเนินงานก่อสร้าง • ข้อ 14 กล่าวถึงกรณีที่ “แบบรูปและรายการละเอียด” มีความผิดพลาดหรือคลาดเคลื่อน ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามคำวินิจฉัยของผู้ว่าจ้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หรือผู้ควบคุมงาน โดยไม่มีสิทธิเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มเติม หรือขอขยายอายุสัญญา 4. กฎหมายควบคุมอาคาร • ใช้คำว่า “แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลน” • กฎกระทรวงว่าด้วยการยกเว้น ผ่อนผัน หรือกำหนดเงื่อนไขในการปฏิบัติตามกฎหมายควบคุมอาคาร พ.ศ. 2550 • กำหนดว่า อาคารราชการบางประเภทได้รับการยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้าง แต่ยังคงต้องมี “แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลน” • ต้อง ส่งให้เจ้าพนักงานท้องถิ่นตรวจสอบล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 30 วัน • หากพบว่า แบบแปลนไม่ถูกต้อง ต้องมีการแก้ไขให้เป็นไปตามกฎกระทรวงหรือข้อบัญญัติท้องถิ่น เชื่อมโยงกับงานจ้างก่อสร้างภาครัฐ แม้ว่าหน่วยงานของรัฐบางประเภทจะได้รับ การยกเว้นไม่ต้องขออนุญาตก่อสร้าง ตามกฎหมายควบคุมอาคาร แต่ยังคงต้องมี “แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลน” เพื่อให้หน่วยงานท้องถิ่นตรวจสอบ ซึ่งสะท้อนหลักการเดียวกับ “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” หรือ “แบบรูปและรายการละเอียด” ที่ใช้ควบคุมและตรวจสอบงานจ้างก่อสร้างของรัฐ คำที่ใช้ในวงการก่อสร้าง (ภาษาช่างทั่วไป) แม้ในกฎหมายและระเบียบจะใช้คำที่เป็นทางการ แต่ในวงการก่อสร้างและวิศวกรรม คำที่ใช้กันทั่วไป ได้แก่ • “แบบแปลน” หรือ “แบบก่อสร้าง” หมายถึง “แบบรูป” • “พิมพ์เขียว” หรือ “บลูปรินต์ (Blueprint)” หมายถึง “แบบแปลน” ที่พิมพ์จากกระดาษไขสีน้ำเงิน (ในอดีต) • “รายการประกอบแบบ” หมายถึง “รายการละเอียด” สรุปง่าย ๆ ว่า “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” ในกฎหมาย ก็คือ “แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลน” ในภาษาช่างทั่วไป การจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้างต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ การจัดทำ แบบรูปรายการงานก่อสร้าง ต้องดำเนินการโดย บุคคลที่มีความรู้ด้านงานก่อสร้าง และต้องมีความเชี่ยวชาญในประเภทของงานนั้น ๆ หากเป็นงานก่อสร้างที่เกี่ยวข้องกับวิชาชีพวิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรม • ต้องจัดทำโดยผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ตามที่กำหนดใน พระราชบัญญัติวิศวกร หรือ พระราชบัญญัติสถาปนิก • เช่น อาคารขนาดใหญ่ สะพาน ถนน ระบบโครงสร้างสาธารณูปโภค ต้องมี วิศวกรหรือสถาปนิกที่มีใบอนุญาต เป็นผู้ออกแบบและรับรองแบบ สรุป “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” ต้องจัดทำโดยผู้มีความรู้ความสามารถในงานก่อสร้าง และหากเป็นสิ่งปลูกสร้างที่ต้องใช้ความรู้ทางวิศวกรรมหรือสถาปัตยกรรม จะต้องมีผู้ได้รับใบอนุญาตเป็นผู้ออกแบบและรับรองแบบ เพื่อให้มั่นใจว่างานก่อสร้างเป็นไปตามมาตรฐานและถูกต้องตามหลักวิชาชีพ” ไม่ว่าจะเรียกว่า “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง”, “แบบรูปและรายการละเอียด”, หรือ “แบบแปลนและรายการประกอบแบบแปลน” ทั้งหมดล้วนเป็นเอกสารสำคัญที่ใช้กำหนดรายละเอียดงานก่อสร้าง เพื่อควบคุมคุณภาพ ตรวจสอบ และรับรองว่างานก่อสร้างเป็นไปตามข้อกำหนดของภาครัฐ ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K ตัวอย่างการคำนวณหาปริมาณ Asphalt Concrete (AC) สำหรับคณะกรรมการกำหนดราคากลางตัวอย่างการคำนวณหาปริมาณ Asphalt Concrete (AC) สำหรับคณะกรรมการกำหนดราคากลาง (สำหรับผู้ไม่มีพื้นฐานด้านช่าง) 1. แนวคิดพื้นฐาน ผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีต (AC) คือชั้นผิวของถนนที่ทำจากหินและยางมะตอยผสมกัน ใช้ในการปูพื้นผิวเพื่อให้ถนนเรียบและทนทาน การคำนวณปริมาณงาน AC เป็นสิ่งสำคัญในการกำหนดราคากลางงานก่อสร้าง โดยคำนวณจากพื้นที่และความหนาของถนน 2. ค่าที่ใช้ในการคำนวณ ปริมาตร AC (m³) = พื้นที่ถนน (m²) × ความหนา (m) ปริมาณ AC (ตัน) = ปริมาตร AC (m³) × น้ำหนักต่อหน่วยของ AC (ตัน/m³) ค่าน้ำหนักต่อหน่วยที่ใช้ในการคำนวณราคากลาง = 2.4 ตัน/m³ (เป็นค่ามาตรฐานที่ใช้ในการคำนวณราคากลางงานก่อสร้าง) 3. ตัวอย่างการคำนวณ ถนนกว้าง 6 เมตร ถนนยาว 1,000 เมตร เปรียบเทียบ 3 ความหนา (4 ซม., 5 ซม., 6 ซม.) 4. คำนวณทีละขั้นตอน หาพื้นที่ถนน 6 เมตร × 1,000 เมตร = 6,000 ตารางเมตร หาปริมาตร AC ตามความหนาต่าง ๆ ความหนา 4 ซม. (0.04 เมตร) → 6,000 × 0.04 = 240 m³ ความหนา 5 ซม. (0.05 เมตร) → 6,000 × 0.05 = 300 m³ ความหนา 6 ซม. (0.06 เมตร) → 6,000 × 0.06 = 360 m³ แปลงเป็นน้ำหนัก (ตัน) ตามความหนาต่าง ๆ ความหนา 4 ซม. → 240 × 2.4 = 576 ตัน ความหนา 5 ซม. → 300 × 2.4 = 720 ตัน ความหนา 6 ซม. → 360 × 2.4 = 864 ตัน 5. สรุปการเปรียบเทียบ ถ้าปูหนา 4 ซม. ใช้ AC 576 ตัน ถ้าปูหนา 5 ซม. ใช้ AC 720 ตัน ถ้าปูหนา 6 ซม. ใช้ AC 864 ตัน ตัวอย่างนี้จัดทำขึ้นเพื่อเป็นตัวอย่างในการคำนวณหาปริมาณงานแอสฟัลต์คอนกรีต (AC) เท่านั้น ในการคำนวณ ราคาต่อหน่วยของงานผิวทางแอสฟัลต์คอนกรีต มีขั้นตอนการคำนวณที่เพิ่มเติมมากกว่านี้ ขอให้ศึกษาจาก หลักเกณฑ์และวิธีการคำนวณราคากลางงานก่อสร้างงานทาง เพื่อความถูกต้องและครบถ้วน ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K ดูและDownloadผู้ช่วยช่างโยธาสามารถแต่งตั้งเป็น “ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง” ได้หรือไม่ และมีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตาม ว 85 หรือไม่?ผู้ช่วยช่างโยธาสามารถแต่งตั้งเป็น “ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง” ได้หรือไม่ และมีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตาม ว 85 หรือไม่?
1. กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง มาตรา 101 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 • กำหนดว่า “งานจ้างก่อสร้างที่มีขั้นตอนการดำเนินการเป็นระยะ ๆ อันจำเป็นต้องมีการควบคุมงานอย่างใกล้ชิด หรือมีเงื่อนไขการจ่ายเงินเป็นงวดตามความก้าวหน้าของงาน ให้มีผู้ควบคุมงานซึ่งแต่งตั้งโดยผู้มีอำนาจ” • ข้อความนี้ชัดเจนว่า ไม่จำเป็นต้องเป็นงานก่อสร้างที่ซับซ้อน แต่หากมีเงื่อนไขตามมาตรา 101 ก็ต้องแต่งตั้งผู้ควบคุมงาน ข้อ 177 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ • ระบุว่า ผู้ควบคุมงานต้องมีความรู้ความชำนาญทางด้านช่างตามลักษณะของงานก่อสร้าง • สามารถแต่งตั้งจาก ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ หรือบุคลากรของรัฐอื่นๆ ว 85 กระทรวงการคลัง (หนังสือด่วนที่สุด ที่ กค 0402.5/ว 85 ลงวันที่ 6 กันยายน 2561) • กำหนด อัตราค่าตอบแทนสำหรับผู้ควบคุมงานก่อสร้าง • หากได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้อง มีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตามที่กำหนด 2. วิเคราะห์กรณีผู้ช่วยช่างโยธา เป็นบุคลากรของรัฐ → ผู้ช่วยช่างโยธาเป็นพนักงานขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) หรือหน่วยงานรัฐ มีความรู้ความชำนาญด้านช่าง → มีความสามารถในการควบคุมงานก่อสร้างตามข้อ 177 สามารถแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานได้ → เนื่องจากเข้าเงื่อนไขของมาตรา 101 และข้อ 177 ข้อสรุป: “ผู้ช่วยช่างโยธาสามารถแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างได้ เพราะเป็นบุคลากรของรัฐและมีความรู้ด้านช่างตามที่ระเบียบกำหนด” 3. สิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตาม ว 85 หากได้รับการแต่งตั้งอย่างถูกต้องตามกฎหมาย → มีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตาม ว 85 ต้องปฏิบัติงานควบคุมงานก่อสร้างจริง → เพื่อให้มีคุณสมบัติครบถ้วนในการเบิกจ่ายค่าตอบแทน ข้อสรุป: “ผู้ช่วยช่างโยธาที่ได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้าง มีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตาม ว 85” 4. สรุปฟันธง “ผู้ช่วยช่างโยธาสามารถแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างได้ และมีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตาม ว 85 หากได้รับการแต่งตั้งและปฏิบัติงานจริง” ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K คนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม สามารถแต่งตั้งเป็น “ผู้ควบคุมงาน” หรือ “คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ” ในงานจ้างก่อสร้างได้หรือไม่?คนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม สามารถแต่งตั้งเป็น “ผู้ควบคุมงาน” หรือ “คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ” ในงานจ้างก่อสร้างได้หรือไม่? ~~~~~~~~ ภายใต้บริบทที่หน่วยงานรัฐขาดแคลนบุคลากรด้านช่าง จำเป็นต้องพิจารณาแนวทางที่เป็นไปได้ในการใช้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถให้เกิดประโยชน์สูงสุด กฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้องไม่ได้ปิดกั้นโอกาสของบุคคลภายนอกโดยสิ้นเชิง แต่กำหนดเงื่อนไขเฉพาะที่สามารถนำมาใช้พิจารณาแต่งตั้งได้ ~~~~~~~~ 1. คนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม สามารถเป็น “ผู้ควบคุมงานก่อสร้าง” ได้หรือไม่? หลักกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 1. มาตรา 101 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 • กำหนดให้มี “ผู้ควบคุมงาน” สำหรับงานก่อสร้างที่มีลักษณะซับซ้อน • ผู้ควบคุมงานต้องได้รับการแต่งตั้งจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ 2. ข้อ 177 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ • ผู้ควบคุมงานต้องมีความรู้ความชำนาญทางด้านช่างตามลักษณะของงานก่อสร้าง • สามารถแต่งตั้งจาก ข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ หรือบุคลากรของรัฐอื่นๆ วิเคราะห์กรณีคนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม มีความรู้ด้านงานช่างและสามารถควบคุมงานได้ แต่ไม่มีสถานะเป็นบุคลากรของรัฐ แม้จะมีความสามารถเพียงพอ แต่กฎหมายกำหนดชัดเจนว่าผู้ควบคุมงานต้องเป็นบุคลากรของรัฐ ข้อสรุป: “คนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม ไม่สามารถแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานได้” เว้นแต่ได้รับการบรรจุเป็นบุคลากรของรัฐก่อน 2. คนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม สามารถเป็น “คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้าง” ได้หรือไม่? หลักกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง 1. มาตรา 100 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ พ.ศ. 2560 • กำหนดให้มี “คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ” ซึ่งทำหน้าที่บริหารสัญญาและตรวจรับงาน • ต้องได้รับการแต่งตั้งจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ 2. ข้อ 25 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ • หัวหน้าหน่วยงานของรัฐต้องแต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้าง 3. ข้อ 26 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ • วรรคหนึ่ง: กำหนดว่า กรรมการต้องเป็นข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ หรือบุคลากรของรัฐ • วรรคสอง: สามารถแต่งตั้งบุคคลอื่นร่วมเป็นกรรมการได้หากมีเหตุจำเป็น แต่ต้องไม่มากกว่ากรรมการที่เป็นข้าราชการ วิเคราะห์กรณีคนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม มีความรู้ด้านวิศวกรรมและสามารถตรวจรับงานก่อสร้างได้ สามารถแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ ตามข้อ 26 วรรคสอง หากมีเหตุจำเป็น แม้ว่าคนงานทั่วไปจะไม่มีสถานะเป็นข้าราชการหรือบุคลากรของรัฐตามข้อ 26 วรรคหนึ่ง แต่กฎหมายเปิดช่องให้สามารถแต่งตั้งได้ตามข้อ 26 วรรคสอง หากมีความจำเป็น ข้อสรุป: “คนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม สามารถแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ หากเป็นไปตามเงื่อนไขของข้อ 26 วรรคสอง” โดยต้องมีเหตุจำเป็นและได้รับการแต่งตั้งจากหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ 3. สรุปชัดเจน คนงานทั่วไปที่มีความรู้ด้านงานช่างด้านวิศวกรรม สามารถแต่งตั้งเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ หากมีความจำเป็นและเป็นไปตามเงื่อนไขของข้อ 26 วรรคสอง แต่ไม่สามารถแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงานก่อสร้างได้ เว้นแต่ได้รับการบรรจุเป็นบุคลากรของรัฐก่อน ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
|
Categories
All
|