งานพิเศษในสัญญาจ้างก่อสร้างคืออะไร? ผู้รับจ้างต้องเข้าใจให้ชัด ก่อนจะทำหรือปฏิเสธ! งานพิเศษในสัญญาจ้างก่อสร้างคืออะไร? ผู้รับจ้างต้องเข้าใจให้ชัด ก่อนจะทำหรือปฏิเสธ!
ในงานก่อสร้างของภาครัฐ “งานพิเศษ” ไม่ใช่เรื่องที่ผู้รับจ้างจะเลือกทำหรือไม่ทำได้ตามใจ เพราะ สิทธิ์ในการสั่งให้ทำงานพิเศษเป็นสิทธิของฝ่ายผู้ว่าจ้างตามสัญญา ผู้รับจ้าง มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง และ ต้องทำงานพิเศษที่ได้รับคำสั่งเป็นหนังสือเท่านั้น หากผู้รับจ้างปฏิเสธงานพิเศษ ถือว่าผิดสัญญา หน่วยงานมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาตามข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง และตามกฎหมายมาตรา 103 ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ เมื่อถูกบอกเลิกสัญญา หน่วยงานสามารถเสนอชื่อผู้รับจ้างต่อปลัดกระทรวงการคลังให้เป็น “ผู้ทิ้งงาน” ตามมาตรา 109 ซึ่งหมายความว่า ผู้รับจ้างอาจถูกขึ้นบัญชีดำ ไม่สามารถรับงานจากภาครัฐได้อีก แต่ผู้รับจ้างไม่ได้เสียเปรียบเสมอไป หากเห็นว่าค่าจ้างที่ได้รับสำหรับงานพิเศษต่ำเกินจริง หรือไม่ได้รับค่าจ้าง มีสิทธิ์ฟ้องศาลเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มได้ ฝ่ายผู้ว่าจ้างเองก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้รับจ้าง โดยต้องจ่ายค่าจ้างเพิ่ม และต้องขยายเวลาให้ผู้รับจ้าง ถ้าการทำงานพิเศษมีผลกระทบต่อระยะเวลาก่อสร้าง ราคาค่าจ้างที่กำหนดต้องเป็นจริงเป็นธรรม ผู้รับจ้างต้องมีกำไร เพราะอย่าลืมว่าผู้รับจ้าง “กินข้าว ไม่ได้กินแกรบ”! ดังนั้น ผู้รับจ้างต้องเข้าใจทุกประเด็นให้ชัดเจน ก่อนจะทำหรือปฏิเสธคำสั่งให้ทำงานพิเศษ! ⸻ งานพิเศษคืออะไร? “งานพิเศษ” คือ งานที่ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญา แต่ผู้ว่าจ้างมีสิทธิสั่งให้ทำได้ หากอยู่ในขอบข่ายของวัตถุประสงค์ของสัญญา สัญญาจ้างก่อสร้าง ข้อ 16 กำหนดไว้ว่า: “ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะสั่งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทำงานพิเศษ ซึ่งไม่ได้แสดงไว้หรือรวมอยู่ในเอกสารสัญญานี้ หากงานพิเศษนั้นๆ อยู่ในขอบข่ายทั่วไปแห่งวัตถุประสงค์ของสัญญานี้ นอกจากนี้ ผู้ว่าจ้างยังมีสิทธิที่จะสั่งให้เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขแบบรูปและข้อกำหนดต่างๆ ในเอกสารสัญญานี้ด้วย” สรุปง่ายๆ: ถ้างานนั้น ไม่มีในสัญญาเดิม และต้อง เพิ่มเข้าไปใหม่ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างเป็นหนังสือ → เป็น “งานพิเศษ” ถ้างานนั้น เป็นเพียงการเปลี่ยนวัสดุ หรือเปลี่ยนรายละเอียดของงานที่มีอยู่แล้ว → ไม่ใช่งานพิเศษ! ⸻ ตัวอย่าง “งานพิเศษ” ที่ชัดเจน ตัวอย่างที่ 1: เพิ่มรางน้ำฝนให้บ้านพักข้าราชการ สัญญาเดิม → ไม่มีรางน้ำฝนที่ชายคา หน่วยงานต้องการเพิ่ม → เพื่อเก็บน้ำฝนไปใช้ประโยชน์ ฟันธง! → งานนี้เป็นงานพิเศษ เพราะ ไม่มีในสัญญาเดิม และต้องเพิ่มเข้าไปใหม่ ⸻ ตัวอย่างที่ 2: เพิ่มไฟจราจรให้ถนนที่สร้างใหม่ สัญญาเดิม → ไม่มีไฟจราจร หน่วยงานสั่งให้เพิ่ม → เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ฟันธง! → เป็นงานพิเศษ เพราะ ต้องติดตั้งใหม่ที่ไม่มีในสัญญาเดิม ⸻ ตัวอย่างที่ 3: เพิ่มหลังคาทางเดินโรงเรียน สัญญาเดิม → มีแค่พื้นทางเดิน ไม่มีหลังคา หลังจากสร้างไปแล้ว พบว่าเด็กนักเรียนเดินไปเรียนแล้วเปียกฝน ฟันธง! → เป็นงานพิเศษ เพราะ ไม่มีในสัญญาเดิม และต้องเพิ่มเข้าไปใหม่เพื่อให้ใช้งานได้จริง ⸻ แล้วอะไรที่ “ไม่ใช่” งานพิเศษ? ตัวอย่างที่ 4: เปลี่ยนวัสดุปูพื้นจากกระเบื้องเซรามิกเป็นกระเบื้องแกรนิต สัญญาเดิม → กำหนดให้ปูพื้นกระเบื้องเซรามิก ผู้ว่าจ้างต้องการเปลี่ยนเป็นแกรนิตแทน ฟันธง! → ไม่ใช่งานพิเศษ เพราะ เป็นแค่การเปลี่ยนวัสดุ ไม่ได้เพิ่มขอบข่ายงานใหม่ ⸻ ค่าจ้างของงานพิเศษ คิดยังไง? ลำดับการกำหนดค่าจ้างในงานพิเศษ ต้องเป็นไปตามนี้ ใช้ราคาตามสัญญาเดิมก่อน ถ้ามี ถ้าสัญญาไม่มีราคาสำหรับงานพิเศษ → ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างต้องตกลงราคากันใหม่ ถ้าตกลงกันไม่ได้ → ผู้ว่าจ้างเป็นฝ่ายกำหนดราคาค่าจ้างเอง แม้ผู้รับจ้างไม่เห็นด้วย → ต้องทำงานไปก่อน ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง หากค่าจ้างที่กำหนดไม่เป็นธรรม → ผู้รับจ้างสามารถฟ้องศาลเรียกร้องเพิ่มได้ ฝ่ายผู้ว่าจ้างต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้รับจ้าง: การสั่งให้ทำงานพิเศษ ต้องมีการจ่ายค่าจ้างเพิ่มตามความเหมาะสม หากงานพิเศษทำให้ระยะเวลาก่อสร้างเพิ่มขึ้น ต้องขยายเวลาด้วย ค่าจ้างต้องเป็นจริงเป็นธรรม ผู้รับจ้างต้องได้กำไร อย่าลืมว่าผู้รับจ้าง “กินข้าว ไม่ได้กินแกรบ”! ⸻ ถ้าไม่ทำงานพิเศษ จะเกิดอะไรขึ้น? หน่วยงานมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา ตามข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง และตามกฎหมายมาตรา 103 ผู้ว่าจ้างสามารถเสนอชื่อให้เป็น “ผู้ทิ้งงาน” ตามกฎหมายมาตรา 109 อาจถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ไม่สามารถรับงานภาครัฐได้อีก ถูกริบหลักประกันสัญญา และฟ้องเรียกค่าเสียหาย สรุปชัดเจน: หากได้รับคำสั่งให้ทำงานพิเศษ ผู้รับจ้างต้องทำ ห้ามปฏิเสธ! ถ้าค่าจ้างไม่เป็นธรรม ให้ใช้สิทธิฟ้องศาลเรียกร้องค่าจ้างเพิ่ม ไม่ใช่หยุดงานหรือปฏิเสธงาน แชร์โพสต์นี้ให้เพื่อนร่วมงานเข้าใจคำว่า “งานพิเศษ” กันเถอะ! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K |
Categories
All
|