หน่วยงาน อปท.ขาดแคลนสถาปนิก ขาดแคลนวิศวกรในการทำหน้าที่ออกแบบ จะต้องทำอย่างไร? หน่วยงาน อปท.ขาดแคลนสถาปนิก ขาดแคลนวิศวกรในการทำหน้าที่ออกแบบ จะต้องทำอย่างไร?
ปัญหาสำคัญที่หลายหน่วยงานภาครัฐต้องเผชิญ คือ การขาดแคลนบุคลากรที่สามารถทำหน้าที่ออกแบบได้ เช่น สถาปนิกและวิศวกร ส่งผลให้การดำเนินการเกี่ยวกับงานก่อสร้างติดขัด บางหน่วยงานอาจมีช่างเขียนแบบหรือนายช่างที่สามารถถ่ายทอดแบบก่อสร้างได้ แต่ไม่มี “ผู้ออกแบบ” ซึ่งเป็นผู้กำหนดแนวคิดและวางแผนโครงการก่อสร้างให้มีมาตรฐาน แล้วถ้าหน่วยงานไม่มีสถาปนิกหรือวิศวกรจะต้องทำอย่างไร? • ต้องเชิญบุคคลภายนอกมาเป็นกรรมการออกแบบได้หรือไม่? • สามารถใช้แบบมาตรฐานที่มีอยู่แล้วได้หรือเปล่า? • มีแนวทางใดบ้างในการแก้ไขปัญหาอย่างถูกต้องตามระเบียบ? นอกจากนี้ ยังมีอีกหนึ่งเรื่องที่หลายคนยังเข้าใจผิด นั่นคือ “ออกแบบ” กับ “เขียนแบบ” ไม่ใช่เรื่องเดียวกัน! หลายหน่วยงานคิดว่าสถาปนิกและวิศวกรมีหน้าที่เขียนแบบ แต่ความจริงคือ หน้าที่หลักของพวกเขาคือการออกแบบ ไม่ใช่การนั่งเขียนแบบ! เปรียบเทียบให้เห็นภาพง่ายๆ สถาปนิกและวิศวกร = หัวหน้าพ่อครัว คิดค้นสูตรอาหาร ออกแบบเมนู คิดว่าต้องใช้วัตถุดิบอะไร ช่างเขียนแบบ = คนจดสูตรอาหาร เขียนออกมาเป็นรายละเอียดว่าต้องใช้เกลือกี่ช้อน น้ำกี่มิลลิลิตร ถ้าไม่มีสถาปนิกหรือวิศวกร → อาหารอาจไม่มีคุณภาพ ถ้าไม่มีคนเขียนแบบ → อาหารอาจทำออกมาไม่ถูกต้อง บทความนี้จะช่วยให้หน่วยงานภาครัฐเข้าใจว่า “ออกแบบ” กับ “เขียนแบบ” ต่างกันอย่างไร? ถ้าหน่วยงานไม่มีสถาปนิกหรือวิศวกร ต้องแก้ปัญหาอย่างไร? แนวทางง่ายๆ ที่หน่วยงานสามารถใช้ได้ทันที ⸻ 1. หน่วยงานภาครัฐต้องเข้าใจว่า “การออกแบบ” กับ “การเขียนแบบ” เป็นกระบวนการที่ต้องทำควบคู่กัน ตามพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 มาตรา 60 และระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้าง ข้อ 21 วรรคสาม การจัดทำ “แบบก่อสร้างหรือแบบรูปรายการงานก่อสร้าง” ต้องมีทั้ง “ผู้ออกแบบ” และ “ผู้เขียนแบบ” “ผู้ออกแบบ” คือ คนที่คิด วิเคราะห์ และออกแบบงานก่อสร้าง “ผู้เขียนแบบ” คือ คนที่นำแนวคิดออกแบบมาเขียนเป็นแบบก่อสร้างที่ใช้ในการก่อสร้างจริง สิ่งที่ต้องเข้าใจให้ชัดเจน: สถาปนิกและวิศวกรไม่ได้มีหน้าที่หลักในการเขียนแบบ ไม่ใช่สถาปนิกหรือวิศวกรทุกคนจะเขียนแบบได้ เพราะพวกเขาเรียนมาเพื่อทำหน้าที่ออกแบบ การเขียนแบบเป็นหน้าที่ของช่างเขียนแบบ หรือบุคลากรที่มีทักษะด้านการเขียนแบบ เช่น นายช่าง ⸻ 2. ถ้าหน่วยงานไม่มีสถาปนิกหรือวิศวกร ควรทำอย่างไร? แนวทางแก้ปัญหาที่ถูกต้อง: แต่งตั้งคณะกรรมการตามระเบียบข้อ 21 วรรคสาม ระเบียบข้อ 21 วรรคสี่ ให้อิสระหน่วยงานในการแต่งตั้งคณะกรรมการตามความจำเป็นและเหมาะสม คณะกรรมการไม่จำเป็นต้องเป็นข้าราชการ แต่ต้องเป็น ผู้ที่มีความรู้ความชำนาญในสิ่งก่อสร้างที่จะต้องออกแบบและเขียนแบบ ใช้การประชุมออนไลน์ตามข้อ 27 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายและให้ผู้เชี่ยวชาญจากหน่วยงานอื่นสามารถเข้าร่วมประชุมได้สะดวก ใช้หนังสือ ว 85 ของกระทรวงการคลัง ในการจ่ายค่าตอบแทนให้กรรมการออกแบบ โดยสามารถจ่ายเป็นรายครั้งของการประชุม ขอความอนุเคราะห์จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง กรณีเป็นงานอาคาร → ขอความอนุเคราะห์จาก กรมโยธาธิการและผังเมือง ให้ช่วยออกแบบและจัดทำแบบก่อสร้าง กรณีเป็นงานถนน สะพาน โครงสร้างอื่นๆ → กรมทางหลวงชนบทมีแบบมาตรฐานให้แล้ว หากสามารถนำมาใช้ได้ หน่วยงานสามารถนำมาใช้โดยไม่ต้องออกแบบใหม่ หากมีการปรับเปลี่ยนแบบมาตรฐานของกรมทางหลวงชนบท → ต้องให้ สามัญวิศวกรสาขาวิศวกรรมโยธา เป็นผู้รับรองความมั่นคงแข็งแรง หากแบบมาตรฐานของกรมทางหลวงชนบทไม่ตรงกับความต้องการของหน่วยงาน → สามารถ จ้างออกแบบใหม่ได้ หากมีงบประมาณ ⸻ สรุปเข้าใจง่ายใน 3 บรรทัด! สถาปนิกและวิศวกรเรียนมาเพื่อออกแบบ ไม่ใช่เขียนแบบ ถ้าไม่มีสถาปนิกหรือวิศวกร ต้องเชิญบุคคลภายนอกมาเป็นกรรมการ (ตามระเบียบข้อ 21 วรรคสาม) ใช้ประชุมออนไลน์ + จ่ายค่าตอบแทนตามหนังสือ ว 85 เพื่อให้การออกแบบเป็นไปตามมาตรฐาน แชร์ให้หน่วยงานภาครัฐเข้าใจตรงกัน เพื่อการทำงานที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K เจตนาที่แท้จริงของ พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539: มุ่งเอาผิดข้าราชการ หรือคุ้มครองข้าราชการ?เจตนาที่แท้จริงของ พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539: มุ่งเอาผิดข้าราชการ หรือคุ้มครองข้าราชการ?
⸻ หนึ่งในกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการปฏิบัติหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ของรัฐ คือ พระราชบัญญัติความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ พ.ศ. 2539 ซึ่งกำหนดกรอบความรับผิดของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่กระทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ แต่เจตนาที่แท้จริงของกฎหมายฉบับนี้ คือการมุ่งเอาผิดข้าราชการ หรือต้องการคุ้มครองข้าราชการจากการปฏิบัติหน้าที่เพื่อประโยชน์ของรัฐและประชาชน? ⸻ หลักการพื้นฐานของ พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ มาตรา 5 “หน่วยงานของรัฐต้องรับผิดชอบต่อผู้เสียหายในกรณีที่เจ้าหน้าที่กระทำละเมิดในการปฏิบัติหน้าที่ ผู้เสียหายสามารถฟ้องหน่วยงานของรัฐโดยตรง แต่ไม่สามารถฟ้องเจ้าหน้าที่ได้” หลักการนี้แสดงให้เห็นว่า กฎหมายฉบับนี้ไม่ได้มุ่งเอาผิดข้าราชการเป็นหลัก แต่กลับคุ้มครองข้าราชการจากการถูกฟ้องโดยตรง หมายความว่า: หากข้าราชการทำงานแล้วเกิดความเสียหายต่อประชาชน ประชาชนสามารถฟ้องร้องรัฐได้ แต่ ไม่สามารถฟ้องร้องข้าราชการโดยตรง ⸻ มาตรา 6 “ถ้าการกระทำของเจ้าหน้าที่มิใช่การปฏิบัติหน้าที่ หน่วยงานของรัฐไม่ต้องรับผิด เจ้าหน้าที่ต้องรับผิดในทางแพ่งเป็นการเฉพาะตัว” มาตรานี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้ข้าราชการใช้ตำแหน่งในทางที่ผิดและก่อให้เกิดความเสียหายต่อประชาชนโดยเจตนา เป็นหลักการที่กำหนดให้รัฐรับผิดแทนข้าราชการ “เฉพาะกรณีที่เป็นการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมายเท่านั้น” หมายความว่า: ถ้าข้าราชการปฏิบัติตามกฎหมายและระเบียบอย่างถูกต้อง แม้จะเกิดความเสียหาย ก็ถือว่าเป็นเรื่องของรัฐ แต่ถ้าข้าราชการใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือกระทำโดยไม่เกี่ยวกับหน้าที่ รัฐจะไม่รับผิดแทน ⸻ มาตรา 8 “ในกรณีที่รัฐต้องรับผิดใช้ค่าสินไหมทดแทนให้ผู้เสียหาย หน่วยงานของรัฐสามารถเรียกให้เจ้าหน้าที่ชดใช้คืนได้ หากการกระทำนั้นเกิดจากความจงใจ หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง” มาตรานี้เป็นกลไกป้องกันไม่ให้ข้าราชการใช้อำนาจโดยประมาทเลินเล่อจนสร้างความเสียหายร้ายแรง แต่ก็ไม่ได้บังคับให้ข้าราชการต้องรับผิดในทุกกรณี หมายความว่า: ข้าราชการที่ปฏิบัติหน้าที่โดยสุจริต ไม่ต้องรับผิด แต่ถ้าทำผิดพลาดร้ายแรง รัฐสามารถเรียกค่าเสียหายคืนได้ ⸻ เจตนาที่แท้จริงของกฎหมาย: เอาผิด หรือคุ้มครองข้าราชการ? 1. พ.ร.บ. ฉบับนี้มุ่งเน้นการคุ้มครองข้าราชการจากการถูกฟ้องร้องโดยตรง การกำหนดให้ประชาชนต้องฟ้องหน่วยงานของรัฐแทนการฟ้องเจ้าหน้าที่ เป็นมาตรการคุ้มครองไม่ให้ข้าราชการต้องเผชิญคดีความเป็นการส่วนตัวทุกครั้งที่เกิดความเสียหาย 2. แต่ไม่ได้คุ้มครองข้าราชการจนเกินไป หากข้าราชการ ใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือ ประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ก็อาจต้องรับผิดชอบโดยการชดใช้ค่าเสียหาย 3. เป็นการสร้าง “สมดุล” ระหว่างการคุ้มครองเจ้าหน้าที่ กับการรักษาสิทธิของประชาชน หากข้าราชการทำงานอย่างสุจริต แม้เกิดข้อผิดพลาด รัฐต้องรับผิดชอบแทน แต่ถ้าข้าราชการจงใจทำผิดหรือประมาทร้ายแรง ต้องรับผิดเอง ⸻ สรุปข้อเท็จจริงที่ต้องเข้าใจ 1. พ.ร.บ. ความรับผิดทางละเมิดของเจ้าหน้าที่ ไม่ได้มีเจตนาจะเอาผิดข้าราชการเป็นหลัก 2. กฎหมายฉบับนี้มุ่งคุ้มครองข้าราชการจากการถูกฟ้องร้องโดยตรง เพื่อให้สามารถทำงานได้โดยไม่ต้องกังวลเรื่องคดีความ 3. อย่างไรก็ตาม หากข้าราชการกระทำผิดโดยเจตนา หรือประมาทเลินเล่ออย่างร้ายแรง ก็ต้องรับผิดชอบตามสมควร 4. กฎหมายนี้ช่วยให้ประชาชนสามารถเรียกร้องสิทธิจากรัฐได้ โดยไม่ต้องฟ้องเจ้าหน้าที่เป็นรายบุคคล ⸻ บทเรียนที่ข้าราชการต้องรู้ ถ้าปฏิบัติงานโดยสุจริต และทำตามหน้าที่อย่างเคร่งครัด รัฐจะรับผิดแทน แต่ถ้ากระทำโดยมิชอบ หรือประมาทเลินเล่อร้ายแรง รัฐสามารถเรียกร้องค่าเสียหายจากข้าราชการได้ ⸻ กฎหมายนี้ออกแบบมาเพื่อสร้างสมดุลในการบริหารราชการ ช่วยให้ข้าราชการกล้าทำงาน โดยไม่ต้องกลัวถูกฟ้องร้องโดยตรง ช่วยให้ประชาชนสามารถเรียกร้องความเป็นธรรมจากรัฐได้ง่ายขึ้น “ข้าราชการต้องทำงานโดยสุจริต ไม่ใช้อำนาจโดยมิชอบ และคำนึงถึงผลประโยชน์ของรัฐและประชาชนเป็นหลัก” แชร์บทความนี้ เพื่อให้ทุกคนเข้าใจหลักกฎหมายที่ถูกต้อง! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K รองนายกฯ และเลขานายก อบต. เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุได้หรือไม่? คำตอบที่ชัดเจน พร้อมหลักกฎหมายที่ต้องรู้!
รองนายกฯ และเลขานายก อบต. เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุได้หรือไม่? คำตอบที่ชัดเจน พร้อมหลักกฎหมายที่ต้องรู้!
หลายคนสงสัยว่า “รองนายกองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) และเลขานายก อบต. สามารถเป็นคณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้หรือไม่?” วันนี้เรามาเจาะลึกประเด็นนี้กันแบบชัด ๆ ว่า ตำแหน่งทางการเมืองท้องถิ่นเหล่านี้มีสิทธิ์เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุหรือไม่? และถ้าทำได้ มีเงื่อนไขอะไรที่ต้องระวังบ้าง? ⸻ ระเบียบที่เกี่ยวข้อง ระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ ข้อ 26 วรรคสอง กำหนดว่า กรรมการตรวจรับพัสดุจะต้องเป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐเป็นหลัก แต่ในกรณี “จำเป็น” หรือเพื่อ “ประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ” สามารถแต่งตั้ง บุคคลอื่น ร่วมเป็นกรรมการได้ ข้อจำกัด: บุคคลอื่นที่แต่งตั้งมา ต้องไม่มากกว่ากรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานของรัฐ ต้องมีเหตุผลที่ ชัดเจนและจำเป็น ในการแต่งตั้ง ⸻ รองนายกฯ และเลขานายก อบต. ถือเป็น “ข้าราชการ” หรือไม่? คำตอบคือ “ไม่ใช่” รองนายกฯ และเลขานายก อบต. เป็น “ฝ่ายบริหารท้องถิ่น” หรือ “นักการเมืองท้องถิ่น” ไม่ได้เป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐ ตามนิยามในระเบียบข้อ 26 วรรคแรก ไม่มีสถานะเป็นเจ้าหน้าที่รัฐตามกฎหมายบริหารงานบุคคลของ อบต. ดังนั้น รองนายก อบต. และเลขานายก อบต. ไม่สามารถเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุในฐานะข้าราชการหรือพนักงานของรัฐได้ ⸻ แล้วถ้าแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุจะทำได้ไหม? ทำได้! แต่มีเงื่อนไขสำคัญ ต้องเป็นกรณี “จำเป็น” หรือเพื่อ “ประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ” เท่านั้น ต้องไม่มากกว่าจำนวนกรรมการที่เป็นข้าราชการหรือพนักงานของรัฐ ข้อควรระวัง: ปัญหาผลประโยชน์ทับซ้อน – เพราะรองนายกฯ และเลขานายก อบต. เป็นฝ่ายบริหารของหน่วยงานเอง อาจเกิดกรณีตรวจรับงานที่ตนเองมีส่วนเกี่ยวข้องทางอ้อม ความโปร่งใสของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง – ควรให้กรรมการตรวจรับเป็นข้าราชการประจำหรือผู้ที่ไม่มีความเกี่ยวข้องโดยตรงกับการบริหารจัดการงบประมาณ ⸻ สรุปง่าย ๆ “รองนายก อบต. และเลขานายก อบต. ไม่ใช่ข้าราชการหรือพนักงานของรัฐ” ตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้าง แต่สามารถแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุได้ในกรณี “จำเป็น” และเพื่อ “ประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ” ต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน และต้องคำนึงถึงหลักความโปร่งใสของการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ ⸻ ข้อเสนอแนะ หากต้องแต่งตั้งรองนายก อบต. หรือเลขานายก อบต. เป็นกรรมการตรวจรับพัสดุ ต้องมีเอกสารชี้แจงเหตุผลความจำเป็นให้ชัดเจน ควรเลือกข้าราชการประจำของ อบต. หรือบุคคลที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนมาเป็นกรรมการตรวจรับพัสดุให้มากที่สุด เพื่อป้องกันข้อครหาหรือการตรวจสอบจากหน่วยงานภายนอก เช่น สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ ป.ป.ช. ⸻ “การแต่งตั้งกรรมการตรวจรับพัสดุต้องโปร่งใส ถูกต้อง และเป็นไปตามระเบียบ เพื่อให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของภาครัฐมีความน่าเชื่อถือ” ฝากแชร์บทความนี้ให้ผู้ที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทุกคนเข้าใจหลักกฎหมายและการปฏิบัติที่ถูกต้อง! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K ดูและDownloadความแตกต่างระหว่างมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา และ มาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ ความแตกต่างระหว่างมาตรา 157 ประมวลกฎหมายอาญา และ มาตรา 120 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ – ข้าราชการต้องรู้!
เจ้าหน้าที่รัฐทุกคนต้องอ่าน! เพราะการกระทำบางอย่างอาจเข้าข่ายผิดกฎหมายโดยไม่รู้ตัว! หลายคนสงสัยว่า “มาตรา 157 ของประมวลกฎหมายอาญา” และ “มาตรา 120 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ 2560” แตกต่างกันอย่างไร วันนี้เราจะมาอธิบายให้เข้าใจง่ายที่สุด! ⸻ มาตรา 157 แห่งประมวลกฎหมายอาญา “ผู้ใดเป็นเจ้าพนักงาน ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” อธิบายง่าย ๆ: • ใช้กับ เจ้าพนักงานของรัฐทุกประเภท • ครอบคลุมทุกกรณีที่ ใช้อำนาจโดยมิชอบ หรือเพิกเฉยไม่ปฏิบัติหน้าที่ • หากมี เจตนาทุจริต หรือ ทำให้เกิดความเสียหายแก่ประชาชนหรือรัฐ = ผิดกฎหมาย ตัวอย่างความผิดมาตรา 157 ล็อกผลสอบแข่งขันให้ญาติได้งานราชการ ปล่อยให้มีการทุจริตเกิดขึ้นแต่ไม่ดำเนินการใด ๆ ใช้อำนาจโดยมิชอบสั่งให้เอกชนได้ประโยชน์ ⸻ มาตรา 120 แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 “ผู้ใดเป็นเจ้าหน้าที่หรือเป็นผู้มีอำนาจหน้าที่ในการดำเนินการเกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างหรือการบริหารพัสดุ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ เพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือ ปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่หนึ่งปีถึงสิบปี หรือปรับตั้งแต่สองหมื่นบาทถึงสองแสนบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ” “ผู้ใดเป็นผู้ใช้หรือผู้สนับสนุนในการกระทำความผิดตามวรรคหนึ่ง ผู้นั้นต้องระวางโทษตามที่กำหนดไว้สำหรับความผิดตามวรรคหนึ่ง” อธิบายง่าย ๆ: • ใช้กับ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างและบริหารพัสดุภาครัฐเท่านั้น • หากทำให้เกิดความเสียหายต่อ โครงการจัดซื้อจัดจ้างของรัฐ หรือ แทรกแซงให้เกิดการทุจริต ถือว่ามีความผิด • ใครที่เป็น “ผู้ใช้” หรือ “ผู้สนับสนุน” ให้เกิดการทุจริต ก็มีโทษเท่ากับตัวผู้กระทำผิด ตัวอย่างความผิดมาตรา 120 รู้เห็นและปล่อยให้มีการสมยอมราคาในการประมูลงานของรัฐ ปรับเปลี่ยนเงื่อนไขจัดซื้อจัดจ้างเพื่อให้บริษัทบางรายชนะ ออก TOR (ขอบเขตงาน) โดยจงใจให้เกิดการแข่งขันไม่เป็นธรรม ⸻ สรุปความแตกต่างสำคัญระหว่างมาตรา 157 และ 120 มาตรา 157 = ใช้กับ เจ้าพนักงานรัฐทุกประเภท มาตรา 120 = ใช้กับ เจ้าหน้าที่รัฐที่เกี่ยวกับการจัดซื้อจัดจ้างและพัสดุเท่านั้น โทษของทั้งสองมาตราเหมือนกัน จำคุก 1-10 ปี ปรับ 20,000 - 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ แต่ที่ต่างกันคือ… มาตรา 120 เอาผิด “ผู้ใช้” หรือ “ผู้สนับสนุน” การทุจริตได้ด้วย! มาตรา 157 เป็นกฎหมายทั่วไปที่ใช้กับเจ้าหน้าที่รัฐทุกประเภท! ⸻ ข้าราชการต้องระวัง! อย่าให้ตัวเองตกเป็นผู้กระทำผิด ทำงานโดยสุจริต อย่าปล่อยให้เกิดการทุจริต หรือเพิกเฉยต่อหน้าที่ หลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส ช่วยกันแชร์ให้เพื่อนข้าราชการได้รู้! “รู้เท่าทันกฎหมาย = ป้องกันตัวเองจากการทำผิด” ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K “มอก.” คืออะไร? มอก.ทั่วไป กับ มอก.บังคับ ต่างกันอย่างไร? และสำคัญอย่างไรกับงานก่อสร้างภาครัฐ? “มอก.” คืออะไร? มอก.ทั่วไป กับ มอก.บังคับ ต่างกันอย่างไร? และสำคัญอย่างไรกับงานก่อสร้างภาครัฐ?
⸻ “มอก.” คืออะไร? “มอก.” หรือ “มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม” เป็นมาตรฐานที่กำหนดโดย สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) มีวัตถุประสงค์เพื่อให้สินค้าหรือวัสดุต่างๆ มีคุณภาพเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด และเพื่อความปลอดภัยในการใช้งาน ⸻ มอก.ทั่วไป กับ มอก.บังคับ ต่างกันอย่างไร? มอก.ทั่วไป (มาตรฐานสมัครใจ) ผู้ผลิต “เลือกทำตามหรือไม่ก็ได้” หากทำตามและผ่านการตรวจสอบ สามารถติดเครื่องหมาย มอก. ได้ เป็นการ ยกระดับคุณภาพสินค้า เพิ่มความน่าเชื่อถือ ตัวอย่างสินค้าที่เป็นมอก.ทั่วไป: • กระเบื้องปูพื้นและบุผนัง (มอก. 2804-2554) • สีทาภายในและภายนอก (มอก. 2514-2553) • เฟอร์นิเจอร์ไม้ (มอก. 800-2553) มอก.บังคับ (ต้องทำตามกฎหมาย) “ต้องทำตาม” หากไม่ทำ = ผิดกฎหมาย ใช้กับสินค้าที่ มีผลต่อความปลอดภัย ชีวิต และสิ่งแวดล้อม หากไม่มีมาตรฐาน มอก.บังคับ ห้ามจำหน่าย หรือนำเข้า ตัวอย่างสินค้าที่เป็นมอก.บังคับ: • เหล็กเสริมคอนกรีต (มอก. 20-2559) • ปูนซีเมนต์ปอร์ตแลนด์ (มอก. 15-2555) • สายไฟฟ้าแรงดันต่ำ (มอก. 11-2553) • หมวกนิรภัยสำหรับงานก่อสร้าง (มอก. 368-2554) • เครื่องใช้ไฟฟ้าบางประเภท เช่น ปลั๊กไฟ และเต้าเสียบ (มอก. 166-2549) ⸻ มอก. สำคัญอย่างไรกับงานก่อสร้างภาครัฐ? ว214 กำหนดแนวทางเกี่ยวกับการใช้วัสดุที่มีมาตรฐาน มอก. ในงานก่อสร้าง หากวัสดุมี มอก.บังคับ หน่วยงานของรัฐต้องใช้มาตรฐานนั้นเป็นหลัก หากวัสดุไม่มี มอก. ให้ใช้มาตรฐานของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแทน หากจำเป็นต้องระบุยี่ห้อของวัสดุในเอกสารประกวดราคา ต้องระบุไม่น้อยกว่า 3 ยี่ห้อ และต้องเปิดโอกาสให้ใช้วัสดุที่มีคุณภาพเทียบเท่า มาตรา 60 แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ ไม่ได้พูดถึง มอก. โดยตรง แต่กำหนดว่า ก่อนการดำเนินการจัดจ้างงานก่อสร้าง หน่วยงานของรัฐต้องมี “แบบรูปรายการงานก่อสร้าง” สามารถดำเนินการจัดทำเอง หรือจ้างออกแบบก็ได้ ระเบียบข้อ 21 ว่าด้วยการกำหนดคุณลักษณะเฉพาะของพัสดุ เกี่ยวข้องกับ มอก. โดยตรง เพราะระบุว่า หากพัสดุ (รวมถึงวัสดุก่อสร้าง) มีมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ต้องใช้เป็นมาตรฐานหลักในการกำหนดรายละเอียดคุณลักษณะเฉพาะ หากไม่มี มอก. ต้องใช้ข้อมูลจากผลิตภัณฑ์ที่ได้รับการจดทะเบียนกับกระทรวงอุตสาหกรรม ⸻ ใครบ้างที่ต้องให้ความสำคัญกับ มอก.? คณะกรรมการจัดทำแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ต้องกำหนดให้ วัสดุที่ใช้ต้องเป็นไปตามมาตรฐาน มอก.บังคับ หากมีการกำหนดไว้ หากวัสดุไม่มี มอก. ต้องใช้มาตรฐานที่เหมาะสมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการกำหนดราคากลาง สืบและกำหนดราคากลางตามแบบที่กำหนด หากแบบกำหนดให้ใช้วัสดุที่มี มอก. คณะกรรมการต้องกำหนดราคากลางตามแบบที่กำหนด การกำหนดราคาต้องสะท้อนราคาตลาดที่แท้จริง และอยู่ในกรอบมาตรฐาน ผู้ควบคุมงาน / คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ตรวจสอบวัสดุที่นำมาใช้ให้ตรงตามแบบและมี มอก. หรือไม่ หากไม่เป็นไปตามข้อกำหนด สามารถปฏิเสธการรับมอบวัสดุ หรือให้เปลี่ยนวัสดุให้เป็นไปตามที่กำหนด ผู้รับจ้าง ต้องปฏิบัติตามแบบที่กำหนด โดยใช้ วัสดุที่มี มอก. หากใช้วัสดุที่ไม่มี มอก. อาจถูกปฏิเสธงาน หรือถูกปรับตามสัญญา ⸻ ถ้าไม่ใช้วัสดุที่มี มอก. จะเกิดอะไรขึ้น? โครงสร้างอาคารเสี่ยงพังทลาย เพราะใช้วัสดุไม่ได้มาตรฐาน ไฟฟ้าลัดวงจร เสี่ยงไฟไหม้ เพราะใช้สายไฟที่ไม่ได้มาตรฐาน งานก่อสร้างมีอายุการใช้งานสั้นลง ต้องซ่อมแซมบ่อย ผิดเงื่อนไขสัญญา หน่วยงานของรัฐอาจไม่รับมอบงาน หรือเกิดปัญหาทางกฎหมาย ⸻ สรุป: มอก. = ความปลอดภัย + คุณภาพ + คุ้มค่างบประมาณ วัสดุก่อสร้างที่มี มอก. เป็นมาตรฐานที่ต้องใช้ในการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ เพื่อให้มีคุณภาพ ปลอดภัย และคุ้มค่าสำหรับการใช้งานในระยะยาว ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ต้อง ตรวจสอบและยืนยันการใช้วัสดุที่มี มอก. ตลอดกระบวนการก่อสร้าง “เลือกวัสดุที่มี มอก. = ปลอดภัยทั้งชีวิตและงบประมาณประเทศ!” แชร์ให้ทุกคนรู้! #มาตรฐานก่อสร้าง #มอก #ปลอดภัยไว้ก่อน ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K วัสดุไม่ตรงสเปค ตรวจรับได้ไหม? รู้ไว้ก่อนเสี่ยงผิดวินัย! อย่าเอ็นดูเขาจนเอ็นเราขาด! วัสดุไม่ตรงสเปค ตรวจรับได้ไหม? รู้ไว้ก่อนเสี่ยงผิดวินัย! อย่าเอ็นดูเขาจนเอ็นเราขาด!
ปัญหาที่เจอบ่อยในงานก่อสร้างภาครัฐ งานก่อสร้างถนน ในแบบกำหนดให้ใช้ หินคลุก แต่ผู้รับจ้างกลับใช้ ลูกรัง ทั้งหมด! พอถึงเวลาตรวจรับงาน คณะกรรมการบางคนมีความเห็นว่า “ลดค่าจ้างแทนการให้แก้ไขก็พอ” แบบนี้ถูกต้องหรือไม่? คำตอบคือ “ไม่ถูกต้อง!” เพราะ การใช้วัสดุผิดสเปคไม่ใช่แค่เรื่องเงิน แต่มันคือการผิดสัญญา! และที่สำคัญ… อย่าเอ็นดูเขาจนเอ็นเราขาด! ข้าราชการที่ตรวจรับงานต้องตระหนักว่า หากเราหยวนให้วันนี้ วันหน้าอาจเป็นเราเองที่เดือดร้อน! ⸻ สเต็ปที่ถูกต้อง เมื่อพบว่างานก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา 1. สั่งให้ผู้รับจ้างแก้ไข ตามอำนาจที่กำหนดในสัญญา ผู้ควบคุมงาน และ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุในงานจ้างก่อสร้าง มีอำนาจสั่งให้ผู้รับจ้างแก้ไขงานให้ตรงตามแบบ (ตามข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน) หากตรวจพบว่าวัสดุที่ใช้ไม่ตรงตามแบบ หรือข้อกำหนดในสัญญา ต้องแจ้งให้ผู้รับจ้างแก้ไขทันที! ⸻ 2. หากผู้รับจ้างไม่แก้ไข ให้สั่งหยุดงาน และดำเนินการตามกฎหมาย หากผู้รับจ้างเพิกเฉย ไม่ดำเนินการแก้ไข ต้องสั่งหยุดงานทันที และ เสนอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาบอกเลิกสัญญา สำคัญ: • ไม่ใช่หน้าที่ของคณะกรรมการตรวจรับ ที่จะพิจารณาปรับลดค่างานหรือยอมให้ผ่าน • ไม่สามารถแก้ไขสัญญาให้ตรงกับสิ่งที่ผู้รับจ้างทำไปแล้วได้! • อย่าปล่อยให้ความเกรงใจ หรือการเอื้อประโยชน์โดยมิชอบ ทำให้เราต้องรับผิดชอบแทนผู้รับจ้าง! ⸻ 3. หากต้องบอกเลิกสัญญา ต้องดำเนินการให้ถูกต้อง หากผู้รับจ้าง ไม่ทำตามสัญญา และไม่แก้ไขให้ตรงตามแบบ หน่วยงานของรัฐสามารถ บอกเลิกสัญญาได้ ตามมาตรา 103 ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ 2560 และต้องเสนอชื่อ ให้เป็นผู้ทิ้งงาน ต่อ ปลัดกระทรวงการคลัง ตาม มาตรา 109 แต่กรณีค่าตอบแทนของผู้รับจ้างล่ะ? ถ้างานที่ทำไป สามารถใช้ประโยชน์ได้ อาจต้องจ่ายค่าการงาน ตามมาตรา 391 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ แต่ถ้าหน่วยงานเห็นว่างานใช้ไม่ได้เลย และต้องรื้อถอน ไม่ต้องจ่ายค่าจ้างใด ๆ ⸻ ข้อผิดพลาดที่ไม่ควรทำ! 1. คิดว่า “วัสดุไม่ตรงแต่แข็งแรง” ก็ลดเงินหน่อยแล้วตรวจรับไปเลย แบบนี้ผิด! เพราะต้องยึดแบบเป็นหลัก ไม่ใช่แค่ความแข็งแรงของงาน! 2. คิดว่า “ตรวจรับไม่ได้ ก็แก้สัญญาให้ตรงกับที่ผู้รับจ้างทำไปแล้ว” อันตรายมาก! เสี่ยงถูกลงโทษทั้งทางวินัยและอาญา ฐานเอื้อประโยชน์ให้ผู้รับจ้าง 3. มองว่า “ก็ทำมาแล้ว เสียดาย ไม่อยากรื้อใหม่” อย่าลืมว่า… งานราชการต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ไม่ใช่ตามใจผู้รับจ้าง! ⸻ ข้าราชการต้องระวัง! อย่าให้ตัวเองตกเป็นผู้กระทำผิด ทำงานโดยสุจริต อย่าปล่อยให้เกิดการทุจริต หรือเพิกเฉยต่อหน้าที่ หลีกเลี่ยงการเกี่ยวข้องกับการจัดซื้อจัดจ้างที่ไม่โปร่งใส อย่าเอ็นดูเขาจนเอ็นเราขาด! วันนี้คุณอาจคิดว่าแค่ “ช่วย ๆ กันไป” แต่พรุ่งนี้คุณอาจต้องรับผิดเอง! ช่วยกันแชร์ให้เพื่อนข้าราชการได้รู้! “รู้เท่าทันกฎหมาย = ป้องกันตัวเองจากการทำผิด” ⸻ หมายเหตุ: การอธิบายนี้อ้างอิงตาม ตัวบทกฎหมาย และสัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน เพื่อให้ข้าราชการและผู้ที่เกี่ยวข้องเข้าใจได้ง่ายที่สุด ⸻ โพสต์นี้ให้ความรู้ ช่วยแชร์ต่อเพื่อสร้างมาตรฐานงานก่อสร้างภาครัฐที่ดีขึ้น! ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K (ร่าง) หนังสือเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อยกเลิกการจัดจ้าง ตามข้อ 56 ของระเบียบฯ(ร่าง) หนังสือเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อยกเลิกการจัดจ้าง ตามข้อ 56 ของระเบียบฯ ที่………./……… หน่วยงาน: ……………………………………… วันที่: ……………………………………… เรื่อง: รายงานผลการพิจารณาประกวดราคา และข้อเสนอให้ยกเลิกการจัดจ้าง เรียน: หัวหน้าหน่วยงานของรัฐ ตามที่ … (ชื่อหน่วยงาน) … ได้ดำเนินการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ (e-bidding) โครงการ … (ระบุชื่อโครงการ) … และได้ดำเนินการเปิดซองข้อเสนอเมื่อวันที่ … (ระบุวัน) … นั้น ในการพิจารณาข้อเสนอของผู้ยื่นซอง ปรากฏว่า มีผู้ยื่นข้อเสนอทั้งสิ้น … ราย แต่เมื่อพิจารณาตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาแล้ว พบว่ามี ผู้ผ่านคุณสมบัติตามข้อกำหนดเพียงรายเดียว พิจารณาตามข้อ 56 ของระเบียบว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ กำหนดว่า: “หากมีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว หรือมีหลายรายแต่ผ่านคุณสมบัติที่กำหนดเพียงรายเดียว ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านหัวหน้าเจ้าหน้าที่ เพื่อยกเลิกการประกวดราคาครั้งนั้น เว้นแต่คณะกรรมการเห็นว่ามีเหตุผลสมควรให้ดำเนินการต่อไป ให้คณะกรรมการดำเนินการตามข้อ 57 หรือข้อ 58 แล้วแต่กรณี” จากการพิจารณาโดยคณะกรรมการพิจารณาผล เห็นว่า ควรเสนอให้ยกเลิกการประกวดราคาในครั้งนี้ เนื่องจาก: 1. จำนวนผู้ผ่านคุณสมบัติที่ถูกต้องมีเพียงรายเดียว ซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการแข่งขันที่เป็นธรรมและความโปร่งใสของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง 2. เงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอาจเป็นปัจจัยที่จำกัดจำนวนผู้เสนอราคา ส่งผลให้มีผู้เข้าร่วมการแข่งขันได้น้อย ซึ่งอาจไม่ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ 3. หากเดินหน้าดำเนินการต่อโดยไม่มีการแข่งขันที่เพียงพอ อาจก่อให้เกิดข้อครหาเกี่ยวกับความโปร่งใสของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้าง ข้อเสนอของคณะกรรมการพิจารณาผล: ด้วยเหตุผลข้างต้น คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาจึงขอเสนอให้ หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณายกเลิกการประกวดราคาครั้งนี้ ตามข้อ 56 ของระเบียบฯ และดำเนินการปรับปรุงเอกสารประกวดราคาให้เหมาะสมก่อนประกาศใหม่ เพื่อให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรมและเกิดประโยชน์สูงสุดต่อทางราชการ จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณา ลงชื่อ …………………………………… (ประธานคณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคา) วันที่ …………………………………… ~~~~~~~~~~ แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย ~~~~~~~~~~ อบรมกับโยธาไทย 1. อบรมราคากลางและค่า K https://training.yotathai.com/con-k 2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124 https://training.yotathai.com/w452 3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา https://training.yotathai.com/work 4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ https://training.yotathai.com/law-work 5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง https://training.yotathai.com/ai 6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง https://training.yotathai.com/contract 7. อบรม SketchUp BIM + LayOut https://training.yotathai.com/sketchup .......... อบรมออนไลน์ https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์ .......... https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@) https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี) https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี) https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี) https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี) https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์ https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์ https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K |
ร่าง หนังสือเสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐเพื่อยกเลิกการจัดจ้าง_ตามข้อ_56_ของระเบียบฯ.docx | |
File Size: | 17 kb |
File Type: | docx |
ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับ “สลัมเทส” (Slump Test) ในงานจ้างก่อสร้างภาครัฐ
⸻
สลัมเทสคืออะไร และทำไมต้องทดสอบก่อนเทคอนกรีต?
“สลัมเทส” (Slump Test) เป็นการทดสอบวัดค่าการยุบตัวของคอนกรีตสด ก่อนการเทลงแบบ เพื่อควบคุมคุณภาพให้เป็นไปตามข้อกำหนดในสัญญาจ้างก่อสร้างภาครัฐ
เหตุผลที่ต้องทดสอบ Slump Test
เพื่อให้แน่ใจว่า คอนกรีตมีความข้นเหลวที่เหมาะสม
เพื่อป้องกันปัญหาคอนกรีต แข็งเกินไปหรือเหลวเกินไป ซึ่งอาจส่งผลต่อความแข็งแรงและอายุการใช้งานของโครงสร้าง
หากค่าการยุบตัวไม่เป็นไปตามข้อกำหนด จะเกิดอะไรขึ้น?
Slump ต่ำเกินไป (แข็งเกิน) → คอนกรีตไหลเข้าแบบไม่ดี เกิดโพรงอากาศ ส่งผลให้กำลังอัดลดลง
Slump สูงเกินไป (เหลวเกิน) → น้ำมากเกินไป ทำให้คอนกรีตหดตัวแตกร้าว อายุการใช้งานลดลง
ดังนั้น การควบคุมค่าการยุบตัวของคอนกรีตให้เป็นไปตามที่กำหนดในเอกสารสัญญา เป็นสิ่งสำคัญในการบริหารงานก่อสร้างภาครัฐ
⸻
วิธีการทดสอบ Slump Test ในงานก่อสร้างภาครัฐ
นำคอนกรีตสดใส่ลงในกรวย Slump Cone เป็น 3 ชั้น
ใช้แท่งเหล็กกระทุ้ง 25 ครั้งต่อชั้น เพื่อให้คอนกรีตอัดแน่น
ถอดกรวยออก แล้ววัดระยะที่คอนกรีตยุบตัวลง
ค่าที่ได้ เรียกว่า “ค่ายุบตัวของสลัม” (Slump Value) วัดเป็น เซนติเมตร (cm.) ซึ่งต้องอยู่ในช่วงที่กำหนดตามแบบรูปรายการและข้อกำหนดของสัญญาจ้าง
⸻
Slump Test ในงานอาคาร VS. งานผิวทางคอนกรีตในงานก่อสร้างภาครัฐ
งานอาคารราชการ (ฐานราก, เสา, คาน, พื้นอาคาร)
คอนกรีตต้องไหลเข้าแบบได้ดี เพื่อให้แน่นและไม่มีช่องว่าง
ค่า Slump ที่เหมาะสม (โดยทั่วไป)
ฐานราก – 7 ถึง 10 ซม.
คานและเสา – 10 ถึง 15 ซม.
พื้นอาคาร – 8 ถึง 12 ซม.
ตัวอย่างปัญหาในงานอาคาร
ถ้าทำเสาอาคาร แล้ว Slump ต่ำไป (เช่น 3 ซม.) คอนกรีตข้นเกินไป ไหลเข้าเหล็กเสริมไม่ได้ อาจเกิดโพรงและทำให้เสาไม่แข็งแรง
ถ้า Slump สูงไป (เช่น 18 ซม.) คอนกรีตเหลวไป ทำให้เกิดการแยกชั้น (Segregation) และความแข็งแรงลดลง
⸻
งานผิวทางคอนกรีต (Rigid Pavement)
ต้องใช้คอนกรีตที่แข็งและคงรูป เพื่อรองรับน้ำหนักรถและแรงกระแทก
ค่า Slump ที่เหมาะสม (โดยทั่วไป)
ผิวทางคอนกรีต (ถนนภาครัฐ) – 2 ถึง 5 ซม.
ลานจอดรถ ทางเท้า – 3 ถึง 6 ซม.
ตัวอย่างปัญหาในงานผิวทางคอนกรีต
ถ้า Slump มากกว่า 7 ซม. คอนกรีตเหลวเกินไป ทำให้เกิดรอยแตกร้าวง่าย ลดอายุการใช้งาน
ถ้า Slump ต่ำกว่า 2 ซม. คอนกรีตแข็งเกินไป ทำให้การปรับระดับและตกแต่งผิวทางทำได้ยาก
⸻
ความสำคัญของน้ำต่อความแข็งแรงของคอนกรีต
น้ำเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอนกรีตแข็งตัว ผ่านปฏิกิริยาทางเคมีที่เรียกว่า Hydration Reaction แต่ต้องใช้ในปริมาณที่พอดี
ถ้าน้ำมากเกินไป (Slump สูงเกิน) จะเกิดอะไร?
คอนกรีตไหลง่าย แต่…
กำลังรับแรงอัดลดลง
คอนกรีตหดตัวแตกร้าวเร็ว
อายุการใช้งานสั้น
ถ้าน้ำน้อยเกินไป (Slump ต่ำเกิน) จะเกิดอะไร?
คอนกรีตแข็งเกิน เทยาก
อัดตัวไม่ดี มีโพรงอากาศ
ยึดเกาะเหล็กเสริมไม่ดี
ดังนั้น การควบคุมอัตราส่วนน้ำต่อปูน (Water to Cement Ratio) ให้เหมาะสม เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้คอนกรีตมีความแข็งแรงและทนทาน
⸻
สรุปข้อควรรู้สำหรับงานก่อสร้างภาครัฐ
Slump Test วัดความข้นเหลวของคอนกรีต ไม่เกี่ยวกับความหนาของโครงสร้าง
งานอาคาร ใช้ Slump สูงขึ้น (7-15 ซม.) เพื่อให้คอนกรีตไหลเข้าแบบง่าย
งานผิวทาง ใช้ Slump ต่ำ (2-5 ซม.) เพื่อให้คอนกรีตแข็งแรง รับแรงกระแทกได้
น้ำมากไป คอนกรีตอ่อนแอ น้ำพอดี คอนกรีตแข็งแรงที่สุด
Slump Test เป็นเพียงการควบคุมคุณภาพคอนกรีตสด ไม่ใช่ข้ออ้างในการลดคุณภาพงานก่อสร้าง
⸻
แนวทางปฏิบัติสำหรับผู้ควบคุมงานและหน่วยงานภาครัฐ
ควรกำหนดช่วง Slump ที่เหมาะสมในเอกสารประกวดราคาและสัญญาจ้างก่อสร้าง
ควรทำการทดสอบ Slump Test ทุกครั้งก่อนเทคอนกรีต
หากค่าที่วัดได้ไม่อยู่ในช่วงที่กำหนด ต้องพิจารณาการแก้ไขก่อนเทคอนกรีต
ต้องตรวจสอบคุณภาพของคอนกรีตหลังแข็งตัวโดยวิธีที่เหมาะสม เช่น การเจาะ Core Test เพื่อวัดความหนาจริง
งานก่อสร้างภาครัฐที่มีคุณภาพ ต้องเริ่มจากคอนกรีตที่ได้มาตรฐาน!
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
ผู้รับจ้างไม่เข้าทำงานตามกำหนด หน่วยงานรัฐต้องดำเนินการอย่างไรให้ถูกต้องตามกฎหมาย?
“เมื่อถึงกำหนดเริ่มงาน ผู้รับจ้างต้องเข้าทำงานทันที!”
หากไม่เข้าทำงาน ต้องเร่งรัดโดยเร็ว ไม่ต้องรอให้ค่าปรับถึง 10%
แจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรเพียงครั้งเดียว หากยังไม่มา เสนอผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญา
หากบอกเลิกสัญญาแล้ว ต้องดำเนินการขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงาน และหาผู้รับจ้างรายใหม่โดยเร็ว
⸻
กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการเร่งรัดให้ผู้รับจ้างเข้าทำงาน
1. มาตรา 387 ประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์
“ถ้าคู่สัญญาฝ่ายหนึ่งไม่ชำระหนี้ อีกฝ่ายหนึ่งจะกำหนดระยะเวลาพอสมควร แล้วบอกกล่าวให้ฝ่ายนั้นชำระหนี้ภายในระยะเวลานั้นก็ได้ ถ้าและฝ่ายนั้นไม่ชำระหนี้ภายในระยะเวลาที่กำหนดให้ไซร้อีกฝ่ายหนึ่งจะเลิกสัญญาเสียก็ได้”
สรุป:
• ต้องแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และกำหนดเวลาให้เข้าทำงาน
• หากครบกำหนดแล้วยังไม่เข้าทำงาน สามารถเสนอผู้ว่าจ้างให้พิจารณาบอกเลิกสัญญาได้
2. ว 124 (หนังสือจากคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ)
• หน่วยงานต้องแจ้งเตือนก่อนบอกเลิกสัญญา
• กำหนดเวลาที่แน่นอนให้ผู้รับจ้างเข้าทำงาน
• หากครบกำหนดแล้วยังไม่มา ให้คณะกรรมการตรวจรับเสนอผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญา
• หากผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้ว ต้องดำเนินการขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงานตามกฎหมาย
3. มาตรา 103 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ
“หากคู่สัญญาไม่สามารถดำเนินการตามสัญญา หรือมีพฤติการณ์ที่แสดงให้เห็นว่าจะไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ หน่วยงานของรัฐมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้”
สรุป:
• หากผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน ถือเป็นการผิดสัญญา
• หน่วยงานของรัฐมีสิทธิ์ เสนอผู้ว่าจ้างให้พิจารณาบอกเลิกสัญญาได้
4. มาตรา 109 พระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ
“เมื่อบอกเลิกสัญญาแล้ว หน่วยงานของรัฐต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทราบ และเสนอปลัดกระทรวงการคลังเพื่อพิจารณาขึ้นบัญชีรายชื่อผู้ทิ้งงาน”
สรุป:
• การบอกเลิกสัญญาต้องแจ้งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทราบ
• หน่วยงานของรัฐต้องเสนอชื่อผู้รับจ้างเป็นผู้ทิ้งงานให้ปลัดกระทรวงการคลังพิจารณา
5. สัญญาจ้างก่อสร้าง ข้อ 18
“เมื่อเลิกสัญญาแล้ว หน่วยงานของรัฐต้องดำเนินการจ้างผู้รับจ้างรายใหม่ให้เข้าทำงานแทนผู้รับจ้างรายเดิมโดยเร็ว เพื่อให้โครงการแล้วเสร็จ”
สรุป:
• เมื่อเลิกสัญญา ต้องหาผู้รับจ้างรายใหม่ทันที
• ห้ามปล่อยให้โครงการล่าช้า หน่วยงานต้องดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว
6. ข้อ 178 (4) ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างฯ
“ในวันกำหนดเริ่มงานของผู้รับจ้างตามสัญญาและในวันถึงกำหนดส่งมอบงานแต่ละงวด ให้รายงานผลการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างว่าเป็นไปตามสัญญาหรือไม่ ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ทําหน้าที่รับผิดชอบการบริหารสัญญาทราบภายใน 3 วันทำการ”
สรุป:
• วันแรกที่ถึงกำหนดเริ่มงาน ผู้ควบคุมงานต้องไปตรวจงานก่อสร้าง
• ต้องรายงานคณะกรรมการตรวจรับภายใน 3 วันทำการ
⸻
ขั้นตอนดำเนินการเมื่อตรวจพบว่าผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน
ตรวจสอบทันทีในวันแรกที่ถึงกำหนดเริ่มงาน
ผู้ควบคุมงานต้องไปตรวจงาน
หากไม่พบผู้รับจ้าง ต้องแจ้งให้ทราบทันที
โทรแจ้ง และแจ้งเป็นหนังสือเร่งรัดให้เข้าทำงาน
⸻
ออกหนังสือแจ้งเตือนภายใน 3 วันทำการ
เนื้อหาในหนังสือแจ้งเตือนต้องระบุ:
• ผู้รับจ้างต้องเข้าทำงานภายใน 3-7 วัน
• หากไม่เข้าทำงาน คณะกรรมการตรวจรับเสนอผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญา
• การไม่เข้าทำงาน ถือเป็นการผิดสัญญาตามมาตรา 103
หากครบกำหนดแล้วยังไม่เข้าทำงาน = เสนอผู้ว่าจ้างให้พิจารณาบอกเลิกสัญญา
⸻
เมื่อผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญา ต้องเสนอชื่อเป็นผู้ทิ้งงาน
หน่วยงานของรัฐต้องเสนอชื่อผู้รับจ้างเป็นผู้ทิ้งงานต่อปลัดกระทรวงการคลัง
ระบุเหตุผล: ผู้รับจ้างผิดสัญญาตามมาตรา 103
⸻
เมื่อเลิกสัญญาแล้ว → ต้องดำเนินการหาผู้รับจ้างรายใหม่ (ตามข้อ 18 สัญญาจ้างก่อสร้าง)
ดำเนินการจัดจ้างผู้รับจ้างรายใหม่โดยเร็ว
ต้องทำให้โครงการแล้วเสร็จโดยเร็วที่สุด
⸻
อย่าปล่อยให้ผู้รับจ้างไม่เข้าทำงานโดยไม่มีการติดตาม!
“เมื่อให้ทำ ต้องทำ! เมื่อเริ่ม ต้องเริ่ม! เมื่อเสร็จ ต้องเสร็จ!”
⸻
คำถามที่พบบ่อย (FAQ) เกี่ยวกับการเร่งรัดให้ผู้รับจ้างเข้าทำงานตามกำหนด
⸻
เซ็นสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างต้องเข้าทำงานทันทีหรือไม่?
ไม่จำเป็นต้องเข้าทำงานทันทีหลังเซ็นสัญญา
ผู้รับจ้างต้องเข้าทำงานตามวันที่กำหนดไว้ในสัญญา
หากสัญญาระบุให้เริ่มงานหลังจากเซ็นสัญญา 3 วัน / 5 วัน / 7 วัน ก็ต้องเข้าทำงานตามกำหนดนั้น ไม่ใช่วันเซ็นสัญญา
⸻
หากถึงกำหนดเริ่มงานแล้ว แต่ผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน ต้องทำอย่างไร?
ผู้ควบคุมงานต้องตรวจสอบหน้างานก่อสร้างในวันแรกที่ถึงกำหนดเริ่มงาน
หากไม่พบผู้รับจ้าง ต้องแจ้งเตือนเป็นลายลักษณ์อักษรทันที
ต้องกำหนดระยะเวลาให้เข้าทำงาน (3-7 วัน) หากไม่มา ให้คณะกรรมการตรวจรับเสนอผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญา
⸻
จำเป็นต้องแจ้งเตือนผู้รับจ้างกี่ครั้งก่อนเลิกสัญญา?
แจ้งเตือนเพียงครั้งเดียวก็เพียงพอ
กฎหมายไม่ได้กำหนดให้แจ้งเตือนหลายครั้ง แค่ต้องให้โอกาสที่เป็นธรรม
หากครบกำหนดแล้วยังไม่เข้าทำงาน ให้คณะกรรมการตรวจรับเสนอผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญาได้ทันที
⸻
ค่าปรับ 10% เกี่ยวข้องกับการบอกเลิกสัญญาหรือไม่?
ค่าปรับ 10% ไม่มีผลต่อการบอกเลิกสัญญาในกรณีที่ผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน
หากผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน ถือเป็นการผิดสัญญา และสามารถเสนอเลิกสัญญาได้เลย ไม่ต้องรอให้ค่าปรับถึง 10%
⸻
หากผู้ว่าจ้างบอกเลิกสัญญาแล้ว ต้องดำเนินการอะไรต่อ?
ต้องเสนอชื่อผู้รับจ้างเป็นผู้ทิ้งงานต่อปลัดกระทรวงการคลัง ตามมาตรา 109
ต้องดำเนินการจ้างผู้รับจ้างรายใหม่โดยเร็ว ตามข้อ 18 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง
⸻
ถ้าหน่วยงานรัฐไม่เร่งรัดให้ผู้รับจ้างเข้าทำงาน จะเกิดปัญหาอะไร?
โครงการล่าช้า ส่งผลกระทบต่อการให้บริการสาธารณะ
อาจถูกตรวจสอบว่ามีการละเว้นการปฏิบัติหน้าที่
เสี่ยงต่อความเสียหายทางงบประมาณของรัฐ
⸻
ถ้าผู้รับจ้างมาทำงานแล้ว แต่ทำช้ากว่ากำหนด จะบอกเลิกสัญญาได้หรือไม่?
เป็นอีกกรณีที่แตกต่างกัน ต้องพิจารณาจากแผนงานและผลการดำเนินงานของผู้รับจ้าง
หากล่าช้ามากจนมีเหตุให้เชื่อว่างานจะไม่แล้วเสร็จทันกำหนด ก็สามารถเสนอให้พิจารณาบอกเลิกสัญญาได้
⸻
ใครมีหน้าที่ต้องเร่งรัดให้ผู้รับจ้างเข้าทำงาน?
ตาม ว 124 หน่วยงานของรัฐมีหน้าที่ต้องเร่งรัดให้ผู้รับจ้างเข้าทำงาน โดยบุคคลที่เกี่ยวข้องมีหน้าที่ดังนี้
1. ผู้ควบคุมงาน
ต้องตรวจสอบหน้างานในวันแรกที่ถึงกำหนดเริ่มงาน
หากไม่พบผู้รับจ้าง ต้องแจ้งคณะกรรมการตรวจรับทันที
ต้องรายงานคณะกรรมการตรวจรับภายใน 3 วันทำการ ตามระเบียบข้อ 178 (4)
2. คณะกรรมการตรวจรับ
มีหน้าที่ติดตามผลการเข้าทำงานของผู้รับจ้าง
หากพบว่าผู้รับจ้างไม่เข้าทำงาน ต้องเสนอผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญา
3. เจ้าหน้าที่พัสดุ
ไม่มีอำนาจโดยตรงในการเร่งรัด แต่ต้องช่วยสนับสนุนเอกสารและกระบวนการบอกเลิกสัญญา
สรุป:
ผู้ควบคุมงานต้องตรวจสอบและแจ้งคณะกรรมการตรวจรับ
คณะกรรมการตรวจรับต้องเป็นผู้เสนอให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญา
เจ้าหน้าที่พัสดุมีหน้าที่ประสานงานด้านเอกสารเท่านั้น
ดังนั้น การเร่งรัดให้ผู้รับจ้างเข้าทำงานเป็นหน้าที่หลักของ “ผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจรับ” ไม่ใช่เจ้าหน้าที่พัสดุ!
⸻
คำแนะนำ:
อย่าปล่อยให้ผู้รับจ้างไม่เข้าทำงานโดยไม่มีการติดตาม!
แจ้งเตือนครั้งเดียวเพียงพอ!
ครบกำหนดแล้วไม่มา เสนอเลิกสัญญาทันที!
เลิกสัญญาแล้ว ต้องขึ้นบัญชีผู้ทิ้งงาน และหาผู้รับจ้างรายใหม่ให้โครงการเดินหน้าต่อ!
⸻
(ตัวอย่างหนังสือราชการแจ้งเตือนให้เข้าทำงานตามสัญญา - เทศบาลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ)
ที่ ทปช. ๐๐๑๐/๒๕๖X
เทศบาลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ
ถนนXXXXXXXX ตำบลXXXXXXXX อำเภอXXXXXXXX จังหวัดXXXXXXXX
โทรศัพท์ XXXXXXX
วันที่ …………… เดือน …………… พ.ศ. ๒๕๖X
เรื่อง แจ้งเตือนให้เข้าดำเนินการตามสัญญาจ้างก่อสร้าง
เรียน กรรมการผู้จัดการ บริษัทรับเหมาคุณภาพและมีคุณธรรม จำกัด
อ้างถึง สัญญาจ้างก่อสร้างเลขที่ ๐๐๑/๒๕๖X ลงวันที่ …………
ตามที่ เทศบาลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ ได้ลงนามใน สัญญาจ้างก่อสร้างเลขที่ ๐๐๑/๒๕๖X ลงวันที่ ………… กับ บริษัทรับเหมาคุณภาพและมีคุณธรรม จำกัด วงเงินค่าก่อสร้าง ห้าสิบล้านบาทถ้วน เพื่อดำเนินการ โครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานเทศบาลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ ขนาดสี่ชั้น พื้นที่ใช้สอยห้าพันตารางเมตร พร้อมระบบสาธารณูปโภคและภูมิทัศน์โดยรอบ ซึ่งตามสัญญาได้กำหนด ระยะเวลาก่อสร้าง ๓๖๐ วัน โดยให้เริ่มดำเนินการก่อสร้างตั้งแต่วันที่ ๑ กันยายน พ.ศ. ๒๕๖X และสิ้นสุดภายในวันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๖X
บัดนี้ ได้ถึงกำหนดวันเริ่มงานแล้ว แต่ปรากฏว่าผู้รับจ้างยังมิได้เข้าดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาแต่อย่างใด ซึ่งเทศบาลฯ ได้ตรวจสอบพื้นที่โครงการและพบว่า ไม่มีการจัดส่งวัสดุ อุปกรณ์ เครื่องจักร หรือแรงงานเข้าปฏิบัติงาน อันเป็นการไม่ปฏิบัติตามสัญญา
เทศบาลฯ จึงขอให้บริษัทฯ เข้าดำเนินการก่อสร้างภายใน ๓ วันนับแต่วันที่ได้รับหนังสือฉบับนี้ หากพ้นกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว ผู้รับจ้างยังมิได้เข้าทำงาน เทศบาลฯ จะพิจารณาดำเนินการตามมาตรา ๑๐๓ แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. ๒๕๖๐ โดย คณะกรรมการตรวจรับจะเสนอให้ผู้ว่าจ้างพิจารณาบอกเลิกสัญญาทันที
ทั้งนี้ หากมีการบอกเลิกสัญญา หน่วยงานของรัฐจะต้องเสนอชื่อ บริษัทรับเหมาคุณภาพและมีคุณธรรม จำกัด ต่อ ปลัดกระทรวงการคลัง เพื่อพิจารณาขึ้นบัญชีเป็น “ผู้ทิ้งงาน” ตาม มาตรา ๑๐๙ ซึ่งจะส่งผลให้บริษัทของท่าน ถูกระงับสิทธิ์ในการเข้าทำสัญญากับหน่วยงานของรัฐเป็นระยะเวลาตามที่กำหนด
เทศบาลโปร่งใสใจรักษ์ชาติขอให้บริษัทฯ ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญาโดยเร็ว มิฉะนั้น ท่านจะต้องรับผิดชอบผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการบอกเลิกสัญญาโดยสิ้นเชิง
จึงเรียนมาเพื่อทราบ และขอให้ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ขอแสดงความนับถือ
(ลงชื่อ) ……………………………………….
นายXXXXXXXXX
นายกเทศมนตรีเทศบาลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ
หากบทความนี้มีประโยชน์ แชร์ให้เพื่อนร่วมงานของคุณ เพื่อให้เข้าใจหลักการเร่งรัดการเข้าทำงานของผู้รับจ้างอย่างถูกต้องตามกฎหมาย!
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
ทำถนนคอนกรีต ต้องรอผลทดสอบลูกปูนก่อนส่งงานไหม? หรือส่งงานได้เลยแต่ยังไม่เบิกจ่ายเงิน?
คำถามนี้เป็นประเด็นสำคัญสำหรับผู้รับจ้างและหน่วยงานรัฐ เพราะเกี่ยวข้องกับ การตรวจรับงาน และ การเบิกจ่ายเงิน ในงานก่อสร้างถนนคอนกรีต
คำตอบไม่ได้มีแค่ “ใช่” หรือ “ไม่ใช่” เพราะขึ้นอยู่กับสัญญา มาตรฐานที่ใช้ และข้อกำหนดในแบบแปลนก่อสร้าง วันนี้เราจะมาอธิบายให้ชัดเจนโดยอ้างอิงแนวทางของ สำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) และ มาตรฐานของกรมทางหลวงชนบท
⸻
1. วิเคราะห์คำถาม: ผู้ถามต้องการคำตอบอะไร?
คำถามที่ผู้ถามต้องการคำตอบ:
“เมื่อทำถนนคอนกรีตเสร็จแล้ว ต้องรอผลทดสอบลูกปูนก่อนส่งงานไหม? หรือว่างานเสร็จแล้วสามารถส่งได้เลย แต่ยังไม่เบิกจ่ายเงิน?”
สิ่งที่ผู้ถามอยากรู้:
1. งานสามารถส่งมอบได้เลยหลังจากเทคอนกรีตเสร็จหรือไม่?
2. ถ้าต้องรอผลทดสอบ ต้องรอนานแค่ไหน?
3. การเบิกจ่ายเงินเกี่ยวข้องกับผลทดสอบอย่างไร?
⸻
2. คำตอบหลัก: ส่งงานได้เลยไหม หรือรอผลทดสอบก่อน?
คำตอบสั้น ๆ:
ขึ้นอยู่กับสัญญา และมาตรฐานที่ใช้เป็นเกณฑ์
กรณีที่ 1: ถ้าสัญญาไม่ได้ระบุเงื่อนไขพิเศษเกี่ยวกับการทดสอบ
ต้องรอผลทดสอบคอนกรีตที่อายุ 28 วัน เพื่อยืนยันว่าคอนกรีตแข็งแรงตามแบบที่กำหนด
หากผลทดสอบผ่าน → ส่งมอบงานและเบิกจ่ายเงินได้
หากผลทดสอบไม่ผ่าน → ต้องแก้ไขงานตามที่กำหนด
กรณีที่ 2: ถ้าสัญญาระบุให้ใช้มาตรฐานกรมทางหลวงชนบท (มทถ. 231-2562)
สามารถใช้ ผลทดสอบที่อายุตัวอย่างไม่น้อยกว่า 7 วันแทน 28 วันได้ หากกำลังอัดถึงเกณฑ์
หมายความว่า ถ้าผลทดสอบ 7 วัน, 14 วัน, หรือ 21 วัน ผ่านเกณฑ์ ก็สามารถส่งงานได้เลย
ต้องระบุชัดเจนในสัญญาว่า จะใช้ผลทดสอบที่อายุตัวอย่างไม่น้อยกว่า 7 วันแทน 28 วัน
หากไม่มีการกำหนดเงื่อนไขนี้ในสัญญา ต้องยึดเกณฑ์มาตรฐาน 28 วันเป็นหลัก
สรุป:
งานสามารถส่งได้ก่อน 28 วัน ถ้าสัญญาระบุชัดเจน
ถ้าสัญญาไม่ได้กำหนด ต้องรอผลทดสอบที่ 28 วัน
ถ้าสัญญาเผื่อเวลาทดสอบแล้ว งานจะถือว่าเสร็จเมื่อส่งผลทดสอบชุดสุดท้ายพร้อมงานก่อสร้าง
⸻
3. ถ้าไม่ได้เผื่อเวลาให้รอผลทดสอบคอนกรีต ผู้ว่าจ้างต้องทำอย่างไร?
ถ้าผู้ว่าจ้างไม่ได้เผื่อเวลารอผลทดสอบคอนกรีตให้ผู้รับจ้าง ควรต้องแก้ไขสัญญา หรือปรับลดค่าปรับกรณีล่าช้า
แนวทางแก้ไขสัญญา:
เพิ่มเวลาสัญญาให้ครอบคลุมระยะเวลารอผลทดสอบ
หรือ ใช้วิธี งดหรือลดค่าปรับ กรณีที่ความล่าช้าเกิดจากการรอผลทดสอบ ซึ่งเป็นปัจจัยที่ผู้รับจ้างควบคุมไม่ได้
แต่ถ้าผู้ว่าจ้างได้เผื่อเวลาให้รอผลทดสอบไว้แล้ว?
ในแบบแปลนก่อสร้างหรือแบบรูปรายการงานก่อสร้างต้องกำหนดชัดเจนว่า
ระยะเวลาก่อสร้างนี้ได้รวมระยะเวลารอผลทดสอบคอนกรีตไว้แล้ว
งานจะถือว่าแล้วเสร็จเมื่อมีการส่งมอบผลทดสอบชุดสุดท้าย
ถ้าแบบแปลนก่อสร้างกำหนดไว้แบบนี้ ผู้รับจ้างไม่สามารถอ้างว่าต้องขอขยายเวลาเพิ่มได้ เพราะเวลานั้นถูกเผื่อไว้แล้วในสัญญา
⸻
4. อย่าลืม! “การบ่มคอนกรีตหน้างานก่อสร้างสำคัญมาก”
ถึงแม้คอนกรีตที่นำมาใช้มีกำลังอัดตรงตามแบบกำหนด แต่ถ้าหน้างานไม่มีการบ่มที่ถูกต้อง คอนกรีตก็อาจด้อยคุณภาพ!
การบ่มคอนกรีตที่ดีควรทำอย่างไร?
ต้องมีการ คลุมผ้าหรือพลาสติกป้องกันการระเหยของน้ำ
ต้อง ฉีดน้ำให้คอนกรีตชุ่มชื้นตลอดช่วงเวลาที่กำหนด (7-14 วันหรือมากกว่า)
ต้อง ใช้แผ่นพลาสติกคลุมป้องกันแดด หรือใช้สารเคลือบบ่ม
หากไม่มีการบ่มที่ดี:
คอนกรีตอาจสูญเสียน้ำเร็วเกินไป
ทำให้คอนกรีตแตกร้าว และกำลังอัดต่ำกว่าที่กำหนด
ถึงแม้ผลทดสอบลูกปูนผ่าน แต่คุณภาพของคอนกรีตในถนนจริงอาจแย่
ดังนั้น:
ไม่ใช่แค่ต้องให้ความสำคัญกับผลทดสอบลูกปูน แต่ต้องให้ความสำคัญกับการบ่มคอนกรีตที่หน้างานด้วย!
⸻
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการส่งมอบงานถนนคอนกรีต
คำถามเหล่านี้เป็นประเด็นสำคัญที่ผู้รับจ้างและหน่วยงานรัฐมักจะสงสัยเกี่ยวกับการตรวจรับงานและการเบิกจ่ายเงินในงานก่อสร้างถนนคอนกรีต วันนี้เรามาสรุปคำตอบให้เข้าใจง่าย ๆ กันครับ
⸻
1. เมื่อทำถนนคอนกรีตเสร็จแล้ว ต้องรอผลทดสอบลูกปูนก่อนส่งงานไหม?
ตอบ: ขึ้นอยู่กับ สัญญาและมาตรฐานที่ใช้
• ถ้าสัญญาไม่ได้ระบุเงื่อนไขพิเศษเกี่ยวกับการทดสอบ ต้องรอผลทดสอบที่ 28 วัน
• ถ้าสัญญาระบุให้ใช้มาตรฐานกรมทางหลวงชนบท (มทถ. 231-2562) สามารถใช้ผลทดสอบที่อายุตัวอย่างไม่น้อยกว่า 7 วันแทน 28 วันได้
⸻
2. สามารถส่งมอบงานได้ก่อน 28 วันหรือไม่?
ตอบ: ได้ ถ้าสัญญาระบุชัดเจนว่าใช้ผลทดสอบที่อายุตัวอย่างไม่น้อยกว่า 7 วันแทน 28 วัน
หากไม่มีการกำหนดเงื่อนไขนี้ในสัญญา ต้องรอผลทดสอบที่ 28 วัน
⸻
3. ถ้าสัญญาไม่ได้เผื่อเวลารอผลทดสอบให้ผู้รับจ้าง ต้องทำอย่างไร?
ตอบ: ควร แก้ไขสัญญาเพื่อเพิ่มระยะเวลารอผลทดสอบ หรือพิจารณา งดหรือลดค่าปรับ หากผู้รับจ้างล่าช้าเพราะรอผลทดสอบ
⸻
4. ถ้าผู้ว่าจ้างได้เผื่อเวลาให้รอผลทดสอบแล้ว ผู้รับจ้างยังขอขยายเวลาได้ไหม?
ตอบ: ไม่ได้! เพราะเวลานั้นถูกเผื่อไว้แล้วในสัญญาและแบบแปลนก่อสร้าง
⸻
5. ทำไมต้องเผื่อเวลา 35 วันสำหรับรอผลทดสอบคอนกรีต?
ตอบ: เพราะ 28 วัน เป็นระยะเวลาบ่มคอนกรีตเพื่อให้พัฒนากำลังอัดเต็มที่ และ 7 วัน เป็นเวลาที่ใช้ในการส่งตัวอย่าง ทดสอบ และรอผล
⸻
6. ถ้าการบ่มคอนกรีตที่หน้างานไม่ดี แม้ผลทดสอบผ่าน จะเกิดอะไรขึ้น?
ตอบ: คอนกรีตอาจ แตกร้าวและกำลังอัดต่ำกว่าที่ออกแบบ ส่งผลให้ถนนมีอายุการใช้งานสั้นลง
⸻
7. ต้องเผื่อเวลา 35 วันให้ผู้รับจ้างในสัญญาทุกกรณีหรือไม่?
ตอบ: หากหน่วยงานต้องการให้ผู้รับจ้างรอผลทดสอบก่อนส่งงาน ควรระบุในสัญญาและแบบแปลนก่อสร้างให้ชัดเจน เพื่อป้องกันความเข้าใจผิด
⸻
8. การเผื่อเวลา 35 วันต้องระบุไว้ที่ไหน?
ตอบ: ควรระบุไว้ใน แบบแปลนก่อสร้างหรือแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ให้ชัดเจนว่า
• ระยะเวลาก่อสร้างนี้ได้รวมระยะเวลารอผลทดสอบคอนกรีตไว้แล้ว
• งานจะถือว่าแล้วเสร็จเมื่อมีการส่งมอบผลทดสอบชุดสุดท้าย
⸻
9. ถ้าผู้ว่าจ้างไม่ได้เผื่อเวลา 35 วัน แล้วเกิดการล่าช้า ผู้รับจ้างจะถูกปรับไหม?
ตอบ: ถ้าเกิดความล่าช้าเพราะต้องรอผลทดสอบ แต่ไม่ได้เผื่อเวลาไว้ในสัญญา ผู้ว่าจ้างควร งดหรือลดค่าปรับให้ผู้รับจ้าง
⸻
10. สามารถใช้ผลทดสอบที่ 7 วัน แทน 28 วันได้เลยหรือไม่?
ตอบ: ไม่ใช่ว่าทุกกรณีจะใช้แทนกันได้ ต้อง ดูสัญญาและมาตรฐานที่ใช้
• ถ้าอ้างอิงมาตรฐานกรมทางหลวงชนบท สามารถใช้ผลทดสอบที่อายุตัวอย่างไม่น้อยกว่า 7 วันแทน 28 วันได้
• แต่ถ้าไม่มีเงื่อนไขนี้ในสัญญา ต้องใช้ผลทดสอบที่ 28 วันเป็นหลัก
⸻
11. ถ้าผลทดสอบที่ 7 วันผ่านแล้ว สามารถเบิกจ่ายเงินได้เลยหรือไม่?
ตอบ: ได้ ถ้าสัญญาระบุว่าใช้ผลทดสอบที่อายุตัวอย่างไม่น้อยกว่า 7 วันแทน 28 วัน
แต่ถ้าสัญญาไม่ได้ระบุ ต้องรอผลทดสอบที่ 28 วันก่อน
⸻
12. ผู้รับจ้างควรทำอย่างไร ถ้าต้องรอผลทดสอบแต่ในสัญญาไม่ได้เผื่อเวลาไว้?
ตอบ: ควรแจ้งผู้ว่าจ้างให้ แก้ไขสัญญา หรือ ขอลดค่าปรับ กรณีที่ต้องรอผลทดสอบ
⸻
13. ทำไมต้องบ่มคอนกรีตหน้างานก่อสร้างให้ดี แม้ผลทดสอบลูกปูนผ่าน?
ตอบ: ถ้าหน้างานไม่มีการบ่มที่ดี น้ำในคอนกรีตอาจระเหยเร็วเกินไป ทำให้คอนกรีตแตกร้าวและกำลังอัดลดลง
⸻
14. วิธีการบ่มคอนกรีตที่ถูกต้องคืออะไร?
ตอบ:
ต้อง คลุมผ้าหรือพลาสติกป้องกันการระเหยของน้ำ
ต้อง ฉีดน้ำให้คอนกรีตชุ่มชื้นตลอดช่วงเวลาที่กำหนด (7-14 วันขึ้นไป)
ต้อง ใช้แผ่นพลาสติกคลุมป้องกันแดด หรือใช้สารเคลือบบ่ม
⸻
15. ถ้าสัญญาระบุให้รอผลทดสอบก่อนส่งงาน แต่ผู้รับจ้างรีบส่งมอบงานโดยไม่มีผลทดสอบ จะเป็นอย่างไร?
ตอบ: งานจะยัง ไม่ถือว่าแล้วเสร็จสมบูรณ์ และอาจส่งผลให้ ถูกปรับ หรือถูกให้แก้ไขงานในภายหลัง
⸻
แชร์บทความนี้ให้ทุกคนรู้!
เข้าใจเรื่อง การทดสอบคอนกรีตและการเผื่อเวลา
รู้ว่าต้อง แก้ไขสัญญาอย่างไร หากไม่ได้เผื่อเวลาไว้
มั่นใจว่าถนนที่สร้าง ได้มาตรฐานและเป็นธรรมต่อทุกฝ่าย
“สร้างถนนดี มีมาตรฐาน โปร่งใส ปลอดภัย เพื่อทุกคน”
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
ดูและDownload
ผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน คณะกรรมการตรวจรับพัสดุต้องทำอย่างไร?
เรื่องนี้สำคัญ! เพราะ “คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ” ไม่ได้มีหน้าที่แค่ตรวจรับงานเมื่อเสร็จสิ้น แต่ยังมี หน้าที่บริหารสัญญาตลอดระยะเวลาของโครงการก่อสร้าง
ปัญหาที่เกิดขึ้นบ่อย
• ผู้ควบคุมงาน ไม่ส่งรายงานประจำสัปดาห์
• คณะกรรมการตรวจรับไม่มีข้อมูลติดตามงาน
• งานอาจผิดพลาด แต่ไม่ถูกแก้ไขตั้งแต่ต้น
แล้วคณะกรรมการตรวจรับต้องทำอย่างไร?
⸻
คณะกรรมการตรวจรับมีอำนาจ “บริหารสัญญา” ไม่ใช่แค่ตรวจรับงาน
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง: มาตรา 100 แห่ง พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ
กฎหมายกำหนดให้ คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ มีหน้าที่ ทั้งบริหารสัญญาและตรวจรับพัสดุ
หมายความว่า คณะกรรมการตรวจรับไม่ได้มีหน้าที่แค่ตรวจงานเมื่อเสร็จสิ้น แต่ต้อง ติดตาม ควบคุม และตรวจสอบโครงการ ตั้งแต่เริ่มต้นจนจบ
ข้อ 176 ของระเบียบกระทรวงการคลัง
• กำหนดให้ คณะกรรมการตรวจรับต้องออกตรวจงานเป็นระยะ
• ต้องตรวจสอบ รายงานของผู้ควบคุมงานทุกสัปดาห์
ข้อ 178 ของระเบียบกระทรวงการคลัง
• กำหนดให้ ผู้ควบคุมงานต้องส่งรายงานประจำสัปดาห์ ให้คณะกรรมการตรวจรับ
• หากผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน ถือเป็นการละเลยหน้าที่ตามระเบียบ
ข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง
• ระบุว่า คณะกรรมการตรวจรับและผู้ควบคุมงานมีอำนาจสั่งให้ผู้รับจ้างแก้ไขงานได้
• หากพบว่างานก่อสร้างดำเนินไปไม่ถูกต้อง คณะกรรมการตรวจรับ สามารถออกคำสั่งให้แก้ไขได้ทันที ไม่ต้องรอเสนอหัวหน้าหน่วยงาน
• แต่ถ้างานส่งมอบแล้ว และพบว่าไม่เป็นไปตามสัญญา ต้องเสนอให้หัวหน้าหน่วยงานพิจารณาสั่งการ
⸻
ปัญหา: ถ้าผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน คณะกรรมการตรวจรับต้องทำอย่างไร?
1. คณะกรรมการตรวจรับต้องแจ้งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐทันที
(ตามข้อ 178 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ และมาตรา 100 ของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ)
• ทำหนังสือแจ้งว่า ผู้ควบคุมงานไม่ปฏิบัติตามหน้าที่
• ขอให้มีคำสั่งให้ผู้ควบคุมงานปฏิบัติตามระเบียบโดยเคร่งครัด
2. คณะกรรมการตรวจรับต้องออกตรวจไซต์งานเอง
(ตามข้อ 176 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ และข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง)
• แม้ไม่มีรายงานจากผู้ควบคุมงาน คณะกรรมการตรวจรับก็สามารถออกตรวจงานเองได้
• หากพบว่างานไม่เป็นไปตามแบบ สามารถ สั่งให้แก้ไขได้ทันที
3. หากยังไม่ปฏิบัติตาม ให้ทำหนังสือเร่งรัดอีกครั้ง
(ตามข้อ 178 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ)
• ออกหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร
• ระบุกรอบเวลาให้ผู้ควบคุมงานต้องส่งรายงานให้ทันที
4. เสนอเปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงาน หากยังไม่ปฏิบัติตาม
(ตามมาตรา 101 ของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ และข้อ 177 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ)
• หากแจ้งเตือนไปแล้ว แต่ผู้ควบคุมงานยังไม่ส่งรายงาน ให้เสนอให้ เปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงานทันที
⸻
การตีความข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้างให้ชัดเจน
ระหว่างก่อสร้าง:
คณะกรรมการตรวจรับและผู้ควบคุมงานมีอำนาจสั่งให้แก้ไขงานได้ทันที
หากพบว่างานผิดแบบ ไม่ต้องรอคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยงาน
หลังส่งมอบงาน:
หากพบว่างานไม่เป็นไปตามสัญญา ต้องเสนอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาสั่งการ
สรุป:
• หากงานอยู่ระหว่างก่อสร้าง คณะกรรมการตรวจรับมีอำนาจสั่งแก้ไขงานได้เอง
• หากงานเสร็จแล้ว แต่มีปัญหา ต้องเสนอหัวหน้าหน่วยงานพิจารณา
⸻
ตัวอย่างปัญหาที่เกิดขึ้นจริง
ตัวอย่างที่ 1:
โครงการสร้างสะพาน ผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน คณะกรรมการตรวจรับไม่ออกตรวจไซต์งาน
ผลที่เกิดขึ้น:
ตรวจพบว่าสะพานไม่ได้มาตรฐาน ต้องรื้อทำใหม่
โครงการล่าช้าไป 6 เดือน เสียงบประมาณเพิ่ม
แนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง:
คณะกรรมการตรวจรับ ต้องออกตรวจงานเอง ไม่ต้องรอรายงานจากผู้ควบคุมงาน
หากพบว่างานผิดพลาด สามารถสั่งให้แก้ไขได้ทันที ตามข้อ 15 ของสัญญา
ตัวอย่างที่ 2:
เทศบาลว่าจ้างสร้างอาคาร ผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน 3 เดือน
ผลที่เกิดขึ้น:
งานไม่ได้คุณภาพ ต้องซ่อมแซมหลังสร้างเสร็จ
เสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
แนวทางแก้ไขที่ถูกต้อง:
คณะกรรมการตรวจรับ ต้องแจ้งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐทันที
หากยังไม่ปฏิบัติตาม ต้องเสนอเปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงาน
⸻
สรุปแนวทางปฏิบัติ
1. ผู้ควบคุมงานต้องส่งรายงานประจำสัปดาห์ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ (ตามข้อ 178 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ)
2. หากผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน คณะกรรมการตรวจรับต้องแจ้งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐทันที
3. คณะกรรมการตรวจรับมีอำนาจออกตรวจไซต์งานเอง แม้ไม่มีรายงาน (ตามข้อ 176 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ และข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง)
4. หากพบว่างานไม่ถูกต้อง คณะกรรมการตรวจรับสามารถสั่งให้แก้ไขได้ทันที ไม่ต้องรอคำสั่งจากหัวหน้าหน่วยงาน
5. หากงานส่งมอบแล้ว แต่มีปัญหา ต้องเสนอหัวหน้าหน่วยงานพิจารณาสั่งการ
6. หากยังไม่ได้รับรายงาน ต้องเร่งรัด และเสนอเปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงาน หากยังไม่ปฏิบัติตาม
⸻
ฝากถึงทุกหน่วยงาน
“การบริหารสัญญา” ไม่ใช่แค่รอให้ผู้รับจ้างทำงานเสร็จแล้วตรวจรับ แต่ต้องติดตาม ควบคุม และดูแลให้ทุกอย่างเป็นไปตามสัญญา
หากผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน คณะกรรมการตรวจรับต้องดำเนินการตามกฎหมาย ไม่รอช้า!
การทำงานให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น จะช่วยป้องกันปัญหา และทำให้โครงการของภาครัฐมีคุณภาพ
ร่วมกันทำให้โครงการก่อสร้างของภาครัฐมีคุณภาพ และคุ้มค่างบประมาณแผ่นดิน!
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับบทบาทของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุและผู้ควบคุมงานในงานจ้างก่อสร้าง
⸻
1. คณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีหน้าที่อะไรบ้าง?
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่ได้มีหน้าที่แค่ตรวจรับงานเมื่อเสร็จสิ้น แต่ต้อง บริหารสัญญาตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง ตาม มาตรา 100 ของ พ.ร.บ.การจัดซื้อจัดจ้างฯ
ต้อง ติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมงาน เพื่อให้เป็นไปตามแบบและข้อกำหนดในสัญญา
มีอำนาจ ออกตรวจไซต์งานเป็นระยะ และ สั่งให้แก้ไขงานได้ทันที หากพบข้อผิดพลาดระหว่างการก่อสร้าง ตาม ข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง
⸻
2. ผู้ควบคุมงานมีหน้าที่อะไร?
ข้อ 178 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ กำหนดให้ผู้ควบคุมงานต้อง ควบคุม ตรวจสอบ และบันทึกรายงานการก่อสร้างทุกวัน
ต้องส่ง รายงานประจำสัปดาห์ ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุเพื่อใช้ติดตามความคืบหน้าของงาน
หากพบว่า งานไม่เป็นไปตามแบบ ต้องสั่งให้ผู้รับจ้างแก้ไขทันที
⸻
3. ถ้าผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน คณะกรรมการตรวจรับต้องทำอย่างไร?
ตามข้อ 178 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ ผู้ควบคุมงานมีหน้าที่ต้องส่งรายงานให้คณะกรรมการตรวจรับทุกสัปดาห์
หากไม่ส่งรายงาน คณะกรรมการตรวจรับต้องแจ้งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐทันที
คณะกรรมการตรวจรับสามารถลงพื้นที่ตรวจไซต์งานเองได้ แม้ไม่มีรายงาน
หากยังเพิกเฉย สามารถเสนอให้เปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงานได้
⸻
4. คณะกรรมการตรวจรับพัสดุสามารถสั่งให้ผู้รับจ้างแก้ไขงานได้หรือไม่?
ได้! ตาม ข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีอำนาจสั่งให้ แก้ไขงานระหว่างก่อสร้างได้ทันที
หากงานส่งมอบแล้ว แต่มีปัญหา คณะกรรมการตรวจรับต้อง เสนอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาสั่งการ
⸻
5. ถ้าผู้ควบคุมงานและคณะกรรมการตรวจรับตรวจพบว่างานผิดสเปค ต้องทำอย่างไร?
หากงานยังอยู่ระหว่างก่อสร้าง คณะกรรมการตรวจรับและผู้ควบคุมงาน สามารถสั่งให้ผู้รับจ้างแก้ไขได้ทันที
หากงานส่งมอบแล้ว และตรวจพบว่า ไม่เป็นไปตามสัญญา คณะกรรมการตรวจรับต้อง ทำความเห็นเสนอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาสั่งการ
⸻
6. คณะกรรมการตรวจรับสามารถปฏิเสธการรับมอบงานได้หรือไม่?
ได้! หากตรวจสอบแล้วพบว่างานก่อสร้างไม่เป็นไปตามสัญญา
ต้องทำ รายงานสรุปข้อบกพร่อง และ เสนอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณา
⸻
7. ถ้าคณะกรรมการตรวจรับไม่ติดตามงานตั้งแต่ต้น แล้วเกิดปัญหาใครต้องรับผิดชอบ?
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ต้องรับผิดชอบร่วมกัน หากละเลยหน้าที่
หากไม่มีการติดตามงานและออกตรวจเป็นระยะ อาจถือเป็น การละเลยการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย
⸻
8. คณะกรรมการตรวจรับและผู้ควบคุมงานมีสิทธิได้รับค่าตอบแทนหรือไม่?
มีสิทธิได้รับค่าตอบแทน ตาม ว.85 ของกระทรวงการคลัง
หน่วยงานของรัฐต้องจัดสรรงบประมาณให้เหมาะสม เพื่อ สร้างขวัญกำลังใจให้เจ้าหน้าที่
⸻
9. ถ้าผู้รับจ้างไม่ทำงานตามสัญญา คณะกรรมการตรวจรับต้องทำอย่างไร?
คณะกรรมการตรวจรับและผู้ควบคุมงานสามารถ ออกคำสั่งให้แก้ไขทันที
หากยังไม่ปฏิบัติตาม ต้องแจ้งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณาและดำเนินมาตรการทางกฎหมาย
⸻
สรุป:
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ มีหน้าที่บริหารสัญญา ไม่ใช่แค่ตรวจรับงาน
หากผู้ควบคุมงานไม่ส่งรายงาน ต้องแจ้งหัวหน้าหน่วยงานของรัฐทันที
คณะกรรมการตรวจรับ มีอำนาจออกคำสั่งให้แก้ไขงานก่อสร้างได้ ตามข้อ 15 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง
หากพบว่างานไม่เป็นไปตามสัญญา สามารถปฏิเสธการรับมอบงาน และเสนอหัวหน้าหน่วยงานพิจารณาสั่งการได้
ปฏิบัติให้ถูกต้องตั้งแต่ต้น ป้องกันปัญหา ตรวจสอบให้เข้มงวด เพื่อให้โครงการก่อสร้างของภาครัฐได้มาตรฐานและเกิดประโยชน์สูงสุด!
~~~~~~~~~~
ตัวอย่างบันทึกข้อความถึงหัวหน้าหน่วยงานของรัฐ (ผู้ว่าจ้าง) กรณีที่ผู้ควบคุมงานไม่ทำหน้าที่ตามระเบียบจัดซื้อจัดจ้าง ข้อ 178 (2)
บันทึกข้อความ
ส่วนราชการ : คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ที่ 5
ที่ : ทต.โปร่งใสใจรักษ์ชาติ 0402/2567
วันที่ : 15 มีนาคม 2567
เรื่อง : แจ้งพฤติกรรมการละเลยหน้าที่ของผู้ควบคุมงาน และขอให้ดำเนินการตามระเบียบ
เรียน : นายกเทศมนตรีตำบลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ
⸻
1. ความเป็นมา
ตามที่เทศบาลตำบลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ ได้ดำเนินการจ้างก่อสร้าง โครงการก่อสร้างถนนคอนกรีตเสริมเหล็ก หมู่ที่ 5 ตำบลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ อำเภอเมือง จังหวัดสุจริตธรรม ตามสัญญาเลขที่ ทต.โปร่งใส 12/2567 ลงวันที่ 10 มกราคม 2567 โดยมีการแต่งตั้ง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และ นายทดสอบ สมมุติฐาน เป็น ผู้ควบคุมงาน ตามคำสั่งเทศบาลตำบลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ ที่ 102/2567 ลงวันที่ 8 มกราคม 2567
ทั้งนี้ ข้อ 178 (2) ของระเบียบกระทรวงการคลัง ว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 กำหนดให้ ผู้ควบคุมงานต้องจดบันทึกสภาพการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างและเหตุการณ์แวดล้อมเป็นรายวัน พร้อมทั้งจัดทำรายงานประจำสัปดาห์ เพื่อส่งให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ใช้ประกอบการบริหารสัญญาและติดตามความก้าวหน้าของงาน
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการตรวจรับพัสดุได้ตรวจสอบพบว่า นายทดสอบ สมมุติฐาน ซึ่งได้รับแต่งตั้งเป็นผู้ควบคุมงาน มิได้ส่งรายงานประจำสัปดาห์ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุเป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 6 สัปดาห์ ทำให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ขาดข้อมูลประกอบการบริหารสัญญาและติดตามการดำเนินงานของผู้รับจ้าง
⸻
2. รายละเอียดของปัญหาที่เกิดขึ้น
จากการตรวจสอบพบว่า ผู้ควบคุมงานมิได้ปฏิบัติตามระเบียบข้อ 178 (2) ดังนี้
1. ไม่ส่งรายงานประจำสัปดาห์ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ เป็นระยะเวลาต่อเนื่อง 6 สัปดาห์
2. ไม่มีการบันทึกสภาพการปฏิบัติงานของผู้รับจ้างและเหตุการณ์แวดล้อมเป็นรายวัน
3. ทำให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุไม่สามารถติดตามความคืบหน้าของโครงการได้อย่างถูกต้อง
การกระทำดังกล่าว ส่งผลกระทบต่อการทำงานของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ดังนี้
1. ขาดข้อมูลประกอบการบริหารสัญญาและการตรวจรับงานในแต่ละงวด
2. อาจทำให้การเบิกจ่ายเงินค่าจ้างเกิดความล่าช้า หรือไม่มีข้อมูลประกอบการตรวจสอบอย่างเพียงพอ
3. หากมีข้อผิดพลาดในการดำเนินงาน อาจทำให้ไม่สามารถย้อนกลับไปตรวจสอบได้อย่างถูกต้องและครบถ้วน
⸻
3. อำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ และข้อกฎหมายที่เกี่ยวข้อง
1. ข้อ 178 (2) ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ กำหนดให้ ผู้ควบคุมงานต้องส่งรายงานประจำสัปดาห์ให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ เพื่อใช้ประกอบการบริหารสัญญา
2. มาตรา 100 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ กำหนดให้คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ มีหน้าที่บริหารสัญญา ติดตาม ตรวจสอบ และควบคุมการดำเนินงานของผู้รับจ้าง
3. มาตรา 101 แห่งพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ กำหนดว่า ผู้ควบคุมงานต้องปฏิบัติหน้าที่ควบคุมและติดตามงานก่อสร้างอย่างใกล้ชิด
4. มาตรา 120 ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ กำหนดว่า
• หากเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการบริหารสัญญา ละเลยหรือปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จนก่อให้เกิดความเสียหาย อาจมีโทษทั้งทางวินัยและทางอาญา
• มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปีถึง 10 ปี หรือปรับตั้งแต่ 20,000 บาทถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
⸻
4. ขอให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐดำเนินการเพื่อให้เป็นไปตามระเบียบ
เพื่อให้การดำเนินงานของโครงการเป็นไปตามระเบียบและกฎหมายที่เกี่ยวข้อง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุขอให้เทศบาลตำบลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ ดำเนินการดังต่อไปนี้
1. แจ้งให้ผู้ควบคุมงานปฏิบัติตามระเบียบข้อ 178 (2) อย่างเคร่งครัด และส่งรายงานความคืบหน้าประจำสัปดาห์ให้ครบถ้วน
2. หากยังไม่ดำเนินการ ให้ทำหนังสือเตือนเป็นลายลักษณ์อักษร และกำหนดกรอบเวลาที่ชัดเจนในการปฏิบัติ
3. หากผู้ควบคุมงานยังไม่ปฏิบัติตาม ให้พิจารณาเปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงานทันที ตามอำนาจที่กำหนดไว้ในมาตรา 101 ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ
4. หากพบว่าการละเลยของผู้ควบคุมงานทำให้เกิดความเสียหายแก่หน่วยงาน อาจเข้าข่ายความผิดตามมาตรา 120 ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ
จึงเรียนมาเพื่อโปรดพิจารณาและดำเนินการตามอำนาจหน้าที่
ลงชื่อ …………………………………………
ตำแหน่ง ประธานคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
เทศบาลตำบลโปร่งใสใจรักษ์ชาติ
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
นายก อบต. แต่งตั้ง รองนายก อบต. เป็นกรรมการซื้อหรือจ้างได้หรือไม่
เรื่องนี้เป็นประเด็นที่หน่วยงานท้องถิ่นหลายแห่งให้ความสนใจ เพราะมีการแต่งตั้งคณะกรรมการซื้อหรือจ้าง และคณะกรรมการตรวจรับพัสดุอยู่เป็นประจำ หลายแห่งมีข้อสงสัยว่า รองนายก อบต. สามารถได้รับแต่งตั้งเป็นกรรมการเหล่านี้ได้หรือไม่
อ้างอิงกฎหมายและระเบียบที่เกี่ยวข้อง
ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 26 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า
คณะกรรมการซื้อหรือจ้างแต่ละคณะประกอบด้วย ประธานกรรมการ 1 คน และกรรมการอย่างน้อย 2 คน ซึ่งแต่งตั้งจากข้าราชการ ลูกจ้างประจำ พนักงานราชการ พนักงานมหาวิทยาลัย หรือพนักงานของรัฐ หรือพนักงานของหน่วยงานของรัฐที่เรียกชื่ออย่างอื่น
แปลว่าอะไร
หมายความว่า “กรรมการตามวรรคหนึ่ง” หรือที่เรียกกันว่า “กรรมการหลัก” จะต้องเป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐเท่านั้น และต้องมี อย่างน้อย 3 คน ประกอบด้วย
• ประธานกรรมการ 1 คน
• กรรมการอย่างน้อย 2 คน
ดังนั้น รองนายก อบต. ซึ่งเป็นข้าราชการการเมือง ไม่ใช่ข้าราชการประจำ จึงไม่สามารถเป็นกรรมการตามวรรคหนึ่ง หรือที่เรียกว่ากรรมการหลักได้
แล้วรองนายก อบต. สามารถเป็นกรรมการได้หรือไม่
คำตอบคือ “เป็นได้” แต่ต้องเป็นกรรมการร่วมตาม ข้อ 26 วรรคสอง ซึ่งระบุว่า
ในกรณีจำเป็นหรือเพื่อประโยชน์ของหน่วยงานของรัฐ จะแต่งตั้งบุคคลอื่นร่วมเป็นกรรมการด้วยก็ได้ แต่จำนวนกรรมการที่เป็นบุคคลอื่นนั้นต้องไม่มากกว่าจำนวนกรรมการตามวรรคหนึ่ง
สรุปก็คือ นายก อบต. สามารถแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการได้ แต่ต้องเป็นกรรมการตามวรรคสองเท่านั้น
⸻
ตัวอย่างการแต่งตั้งที่ถูกต้อง
กรณีแต่งตั้งคณะกรรมการซื้อหรือจ้าง
หากแต่งตั้งกรรมการตามวรรคหนึ่งครบแล้ว 3 คน (ประธาน 1 คน + กรรมการหลัก 2 คน) สามารถแต่งตั้งกรรมการร่วม (ตามวรรคสอง) เพิ่มเติมได้
แต่จำนวนกรรมการร่วมต้องไม่มากกว่ากรรมการหลัก หมายความว่า ถ้ามีกรรมการหลัก 3 คน กรรมการร่วมแต่งตั้งได้ไม่เกิน 3 คน
กรณีแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการร่วม
ตัวอย่างที่ถูกต้อง
• กรรมการหลัก (วรรคหนึ่ง) มี 3 คน
• สามารถแต่งตั้งกรรมการร่วม (วรรคสอง) ได้สูงสุด 3 คน ซึ่ง 1 ในนี้อาจเป็นรองนายก อบต. ได้
ตัวอย่างที่ผิด
• กรรมการหลัก มีแค่ 2 คน ผิดระเบียบ! เพราะยังไม่ครบองค์ประกอบ
• แต่งตั้งกรรมการร่วมมากกว่ากรรมการหลัก ผิดระเบียบ!
รองนายก อบต. ไม่สามารถเป็นประธานกรรมการได้
เนื่องจาก ประธานกรรมการต้องเป็นข้าราชการ หรือพนักงานของรัฐ ตามข้อ 26 วรรคหนึ่ง
⸻
ตัวอย่างแนววินิจฉัยจากคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างฯ
หนังสือตอบข้อหารือ ที่ กค (กวจ) 0405.4/12894 ลงวันที่ 5 เมษายน 2565 ซึ่งเป็น หนังสือตอบข้อหารือจากคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ เคยตอบข้อหารือจาก อบต. บางปลา ว่า รองนายก อบต. ไม่ใช่ข้าราชการประจำ จึง ไม่สามารถเป็นกรรมการตามวรรคหนึ่ง และ ต้องแต่งตั้งกรรมการหลักให้ครบก่อน จึงสามารถแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการร่วมตามวรรคสองได้
สรุปชัด ๆ นายก อบต. สามารถแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการซื้อหรือจ้างได้ แต่ต้องเป็นกรรมการตามวรรคสอง และต้องแต่งตั้งกรรมการหลักที่เป็นข้าราชการตามวรรคหนึ่งให้ครบก่อน
แต่ไม่สามารถแต่งตั้งเป็นกรรมการตามวรรคหนึ่ง และไม่สามารถเป็นประธานกรรมการได้
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรปฏิบัติตามระเบียบนี้อย่างเคร่งครัด เพื่อป้องกันการแต่งตั้งที่ผิดระเบียบ และเพื่อให้กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างเป็นไปตามกฎหมาย
⸻
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการซื้อหรือจ้าง
นายก อบต. แต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการซื้อหรือจ้างได้เลยไหม
ไม่ได้ทันที ต้องแต่งตั้งกรรมการหลักตามวรรคหนึ่งให้ครบก่อน (ข้าราชการอย่างน้อย 3 คน) จากนั้นจึงแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการร่วมตามวรรคสองได้
ถ้าแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการร่วมแล้ว สามารถแต่งตั้งคนอื่นเพิ่มอีกได้ไหม
ได้ แต่ต้องไม่เกินจำนวนกรรมการหลัก เช่น ถ้ามีกรรมการหลัก 3 คน จะตั้งกรรมการร่วมได้ไม่เกิน 3 คน
รองนายก อบต. สามารถเป็นประธานกรรมการซื้อหรือจ้างได้ไหม
ไม่ได้ เพราะประธานกรรมการต้องเป็นข้าราชการตามข้อ 26 วรรคหนึ่ง
ถ้ากรรมการหลักมี 4 คน จะตั้งกรรมการร่วมได้กี่คน
ได้ไม่เกิน 4 คน ตามข้อ 26 วรรคสอง ที่กำหนดว่ากรรมการร่วมต้องไม่เกินกรรมการหลัก
ถ้าแต่งตั้งรองนายก อบต. เป็นกรรมการแล้ว ต้องระวังอะไรบ้าง
ต้องตรวจสอบว่ามีผลประโยชน์ทับซ้อนหรือไม่ โดยรองนายก อบต. ต้องไม่มีส่วนได้เสียกับผู้รับจ้างหรือผู้เสนอราคา มิฉะนั้นอาจผิดมาตรา 13 ของ พ.ร.บ. จัดซื้อจัดจ้าง
⸻
บทความนี้จัดทำเพื่อเผยแพร่ความรู้ให้กับหน่วยงานท้องถิ่นทั่วประเทศ หากเห็นว่ามีประโยชน์ แชร์ให้เพื่อน ๆ หน่วยงานของท่านรับทราบกันด้วยนะครับ
#จัดซื้อจัดจ้าง #อบต #เทศบาล #กฎหมายท้องถิ่น #โยธาไทย
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
ดูและDownload
อบต. จ้างออกแบบอาคาร กับบุคคลที่ไม่มีร้านจดทะเบียนได้หรือไม่? คำตอบชัดๆ ตรงประเด็น!
⸻
คำถาม:
อบต. มีโครงการก่อสร้างอาคาร และต้องการจ้างบุคคลธรรมดามาออกแบบ แต่บุคคลนั้นไม่ได้มีการจดทะเบียนร้านค้า หรือไม่ได้เป็นบริษัท อบต. สามารถจ้างเขาได้หรือไม่?
⸻
คำตอบแบบเข้าใจง่าย:
“ได้ แต่ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ!”
กฎหมายกำหนดชัดเจนว่า ผู้ที่จะมารับจ้างออกแบบ ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ไม่ว่าจะเป็น วิศวกร หรือ สถาปนิก ตามลักษณะของสิ่งก่อสร้างนั้นๆ
แม้บุคคลนั้นจะไม่มีร้านที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล ก็สามารถรับงานออกแบบได้ ตราบใดที่มีใบอนุญาตที่ถูกต้อง
⸻
กฎหมายที่เกี่ยวข้อง (อ่านง่าย ไม่ซับซ้อน!)
1. บุคคลธรรมดาต้องมีใบอนุญาตจากสภาวิชาชีพ
มาตรา 87 แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ
“ผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้าง ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพสถาปัตยกรรมหรือวิศวกรรม แล้วแต่กรณี”
ข้อ 134 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ
“ผู้ให้บริการจ้างออกแบบหรือควบคุมงานก่อสร้างที่เป็นบุคคลธรรมดา ต้องเป็นผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ และต้องเป็นบุคคลสัญชาติไทย”
สรุป:
บุคคลธรรมดา ต้องมีใบอนุญาตวิศวกรหรือสถาปนิก
ต้องเป็นคนไทย
หากไม่มีใบอนุญาต → รับจ้างออกแบบไม่ได้!
⸻
2. นิติบุคคลก็ต้องมี “ใบอนุญาต” ไม่ใช่แค่ขึ้นทะเบียน
มาตรา 87 วรรคสอง ของ พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ
“ผู้ให้บริการที่เป็นนิติบุคคล ต้องเป็นผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนไว้กับสภาวิชาชีพนั้น ๆ”
แต่ความจริงคือ นิติบุคคลต้อง ขอใบอนุญาตประกอบวิชาชีพประเภทนิติบุคคล จาก สภาวิศวกร หรือ สภาสถาปนิก โดยต้องผ่านการตรวจสอบคุณสมบัติและได้รับการอนุญาตอย่างเป็นทางการ
วิธีการขอใบอนุญาตประเภทนิติบุคคล
สำหรับงานวิศวกรรม → ต้องยื่นขอที่ สภาวิศวกร (COE) https://coe.or.th/faq/step1-corporation/
สำหรับงานสถาปัตยกรรม → ต้องยื่นขอที่ สภาสถาปนิก (ACT) https://act.or.th/th/form_corporation/
สรุป:
ถ้าเป็นนิติบุคคล ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพประเภทนิติบุคคล
ไม่ใช่แค่ “ขึ้นทะเบียน” กับสภาวิชาชีพเฉยๆ
หากไม่มีใบอนุญาตประเภทนิติบุคคล → อบต. จ้างไม่ได้!
⸻
3. ห้ามมีส่วนได้เสียกับผู้รับเหมางานก่อสร้าง
มาตรา 88 แห่ง พ.ร.บ. การจัดซื้อจัดจ้างฯ
“ผู้ให้บริการงานจ้างออกแบบ หรือควบคุมงานก่อสร้าง ที่เป็นคู่สัญญากับหน่วยงานของรัฐ ต้องไม่มีส่วนได้เสียกับผู้ประกอบการงานก่อสร้างในงานนั้น”
ข้อ 133 ของระเบียบกระทรวงการคลังฯ
“ห้ามผู้ออกแบบเป็นผู้รับเหมาหรือมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้รับเหมางานก่อสร้างเดียวกัน”
สรุป:
ห้ามผู้ออกแบบเป็นผู้รับเหมาเอง
ห้ามมีความสัมพันธ์ทางธุรกิจกับผู้รับเหมา
⸻
4. ใบอนุญาตประกอบวิชาชีพต้องตรงกับลักษณะงาน!
ใบอนุญาตที่ต้องใช้ขึ้นอยู่กับประเภทของงานที่ออกแบบ:
ถ้าเป็นงานถนน → ต้องใช้ใบอนุญาตของวิศวกรโยธา
ถ้าเป็นงานอาคาร → อาจต้องใช้ทั้งสถาปนิกและวิศวกร
กรณีเป็นบุคคลธรรมดา:
ถ้าต้องใช้ทั้งใบอนุญาตสถาปนิกและวิศวกร สามารถรวมตัวกันเป็น “ห้างหุ้นส่วนสามัญ” เพื่อยื่นรับจ้างออกแบบ
กรณีเป็นนิติบุคคล (บริษัท หจก.)
หากต้องใช้ทั้งสองวิชาชีพ สามารถรวมตัวกันในรูปแบบ “กิจการร่วมค้า” (Joint Venture) เพื่อให้มีคุณสมบัติตามที่กฎหมายกำหนด
สรุป:
ถ้างานออกแบบต้องใช้ทั้งสองวิชาชีพ → บุคคลธรรมดาสามารถรวมตัวเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ
ถ้าเป็นบริษัท → สามารถตั้งกิจการร่วมค้าเพื่อให้มีใบอนุญาตครบถ้วน
ถ้ามีใบอนุญาตไม่ครบ → อบต. จ้างไม่ได้!
⸻
สรุป: ถ้าจะรับงานออกแบบจาก อบต. ต้องมีอะไรบ้าง?
ถ้าเป็นบุคคลธรรมดา → ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพที่ตรงกับลักษณะงาน
ถ้าเป็นนิติบุคคล → ต้องมี “ใบอนุญาตประเภทนิติบุคคล” จากสภาวิชาชีพ
ห้ามมีส่วนได้เสียกับผู้รับเหมางานก่อสร้าง
กรณีต้องใช้ทั้งสถาปนิกและวิศวกร → รวมตัวเป็น “ห้างหุ้นส่วนสามัญ” หรือ “กิจการร่วมค้า”
ไม่มีใบอนุญาต → รับงานไม่ได้!
เป็นนิติบุคคลแต่ไม่มีใบอนุญาตของบริษัท → รับงานไม่ได้!
⸻
Q&A: คำถามที่พบบ่อย
Q: ถ้าผมไม่มีใบอนุญาตวิศวกรหรือสถาปนิก แต่มีประสบการณ์ออกแบบมากมาย อบต. จ้างผมได้ไหม?
ไม่ได้! กฎหมายบังคับว่าผู้รับจ้างต้องมีใบอนุญาต ไม่ว่าจะมีประสบการณ์มากแค่ไหน ถ้าไม่มีใบอนุญาต ก็จ้างไม่ได้!
Q: ถ้าผมเป็นวิศวกรที่มีใบอนุญาตแล้ว แต่อยากตั้งบริษัทเพื่อรับงาน อบต. ผมต้องทำอย่างไร?
ต้องขอ “ใบอนุญาตประเภทนิติบุคคล” จากสภาวิชาชีพก่อน แค่เปิดบริษัทเฉยๆ ไม่เพียงพอ!
Q: ถ้าผมเป็นผู้รับเหมาอยู่แล้ว ผมสามารถรับงานออกแบบให้ อบต. ได้ไหม?
ไม่ได้! เพราะ กฎหมายห้ามผู้ออกแบบมีส่วนได้เสียกับผู้รับเหมางานก่อสร้างในโครงการเดียวกัน
Q: ถ้าผมต้องใช้ทั้งสถาปนิกและวิศวกร แต่ผมมีแค่ใบอนุญาตวิศวกร ผมสามารถรับงานออกแบบอาคารได้ไหม?
ไม่ได้! ถ้างานออกแบบต้องใช้ทั้งสองวิชาชีพ คุณสามารถ รวมตัวกับสถาปนิกเป็นห้างหุ้นส่วนสามัญ หรือ จัดตั้งกิจการร่วมค้าในกรณีเป็นบริษัท เพื่อให้มีใบอนุญาตครบถ้วน
Q: ถ้าผมเป็นสถาปนิกที่มีใบอนุญาต แต่ไม่มีใบอนุญาตวิศวกร ผมสามารถรับงานออกแบบอาคารสูงได้ไหม?
ไม่ได้! งานออกแบบอาคารสูงต้องมีทั้งสถาปนิกและวิศวกร ดังนั้น ต้องมีผู้เชี่ยวชาญครบตามที่กฎหมายกำหนด
Q: ถ้าเป็นงานถนนหรือสะพาน ต้องใช้ใบอนุญาตอะไร?
ต้องใช้ใบอนุญาตวิศวกรโยธา (จากสภาวิศวกร)
Q: ถ้าเป็นงานออกแบบอาคาร ต้องใช้ใบอนุญาตอะไร?
ต้องใช้ทั้งสถาปนิกและวิศวกรโครงสร้าง ขึ้นอยู่กับประเภทของอาคาร
Q: ถ้าผมจดทะเบียนบริษัทแล้ว แต่ไม่มีใบอนุญาตของบริษัท อบต. จ้างได้ไหม?
ไม่ได้! นิติบุคคล ต้องมีใบอนุญาตประเภทนิติบุคคล จาก สภาวิศวกร หรือ สภาสถาปนิก ไม่ใช่แค่การจดทะเบียนบริษัทเฉยๆ
อ่านจบแล้วชัดเจน! ถ้ามีข้อสงสัยเพิ่มเติม คอมเมนต์ถามกันได้เลยครับ!
บทความนี้ช่วยให้คุณเข้าใจข้อกฎหมายชัดเจนขึ้น แชร์เก็บไว้ หรือส่งต่อให้เพื่อนๆ ที่ทำงานเกี่ยวกับการออกแบบก่อสร้าง!
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
ผู้ว่าจ้างส่งมอบพื้นที่ล่าช้า ส่งผลให้ต้องขยายระยะเวลาหลักประกัน ผู้รับจ้างต้องรับภาระเพิ่ม ผู้ว่าจ้างต้องรับผิดชอบหรือไม่?
⸻
คำถามจากผู้รับจ้าง
ผู้รับจ้างได้รับมอบหมายให้ดำเนินการก่อสร้างตามสัญญา แต่เมื่อถึงกำหนดเริ่มงานกลับไม่สามารถเข้าพื้นที่ได้ เนื่องจากสถานที่ยังไม่พร้อม
ผู้รับจ้างจึงทำหนังสือแจ้งให้ผู้ควบคุมงานของฝ่ายราชการสั่งหยุดงาน แต่ไม่ได้รับคำตอบ จึงต้องส่งหนังสือซ้ำหลายครั้ง
สัญญายังคงเดินหน้า แม้ว่าผู้รับจ้างจะไม่สามารถดำเนินงานได้
เมื่อใกล้ถึงกำหนดส่งมอบงาน ผู้รับจ้างต้องขอขยายระยะเวลาก่อสร้างออกไปตามความจำเป็น
หนังสือค้ำประกันที่ผู้รับจ้างวางไว้ มีระยะเวลาครอบคลุม “ระยะเวลาดำเนินการตามสัญญา +2 ปี” แต่เมื่อมีการขยายเวลา ธนาคารเรียกเก็บค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม ซึ่งกลายเป็นภาระของผู้รับจ้าง
ความล่าช้าเกิดจากหน่วยงานราชการ ดังนั้น ผู้รับจ้างสามารถ เรียกเก็บค่าธรรมเนียมนี้จากหน่วยงานรัฐได้หรือไม่? หรือมีระเบียบข้อใดที่กำหนดไว้หรือไม่?
⸻
วิเคราะห์ปัญหา พร้อมคำตอบที่ชัดเจน
1. กรณีนี้เป็นความผิดของผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
สัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน ข้อ 21 ระบุว่า หากงานล่าช้าเพราะเหตุที่เกิดจากความผิดของผู้ว่าจ้าง หรือ เกิดจากเหตุอื่นที่ผู้รับจ้างไม่ต้องรับผิดชอบตามกฎหมาย ผู้รับจ้างสามารถขอขยายระยะเวลาได้
กรณีนี้ ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย แต่เป็นความผิดของผู้ว่าจ้าง
เหตุสุดวิสัย หมายถึงเหตุการณ์ที่ไม่สามารถคาดการณ์ล่วงหน้าและไม่สามารถป้องกันได้ เช่น ภัยพิบัติทางธรรมชาติ หรือสงคราม ซึ่งอยู่เหนือการควบคุมของทั้งสองฝ่าย
แต่กรณีนี้ หน่วยงานรัฐไม่สามารถส่งมอบพื้นที่ได้ตามกำหนด ซึ่งเป็นการผิดสัญญาของผู้ว่าจ้างเอง
ทางที่ถูกต้อง:
• ผู้รับจ้าง ต้องแจ้งผู้ว่าจ้างโดยตรงเป็นลายลักษณ์อักษร ไม่ใช่เพียงแจ้งผู้ควบคุมงาน
• ขยายระยะเวลาก่อสร้างให้สอดคล้องกับความล่าช้าที่เกิดขึ้น
หากไม่แจ้งเรื่องภายใน 15 วัน นับจากวันที่เหตุนั้นสิ้นสุด ผู้รับจ้างอาจถูกตีความว่า สละสิทธิ์การขอขยายเวลา
⸻
2. ค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกัน ใครต้องจ่าย?
ข้อ 3 ของสัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน ระบุชัดเจนว่า “หลักประกันต้องมีอายุครอบคลุมสัญญา”
หากขยายเวลาสัญญา → ผู้รับจ้างต้องต่ออายุหลักประกันเอง และรับภาระค่าธรรมเนียมธนาคารเอง
อ้างอิงจากข้อ 3 ของสัญญาจ้างก่อสร้างมาตรฐาน
“หลักประกันที่ผู้รับจ้างนำมามอบให้ ต้องมีอายุครอบคลุมความรับผิดของผู้รับจ้างตลอดอายุสัญญา ถ้าหลักประกันที่ผู้รับจ้างนำมามอบให้ดังกล่าวลดลงหรือเสื่อมค่าลง หรือมีอายุไม่ครอบคลุมถึงความรับผิดของผู้รับจ้างตลอดอายุสัญญา ไม่ว่าด้วยเหตุใด ๆ ก็ตาม รวมถึงกรณีผู้รับจ้างส่งมอบงานล่าช้าเป็นเหตุให้ระยะเวลาแล้วเสร็จ หรือวันครบกำหนดความรับผิดในความชำรุดบกพร่องตามสัญญาเปลี่ยนแปลงไป ไม่ว่าจะเกิดขึ้นคราวใด ผู้รับจ้างต้องหาหลักประกันใหม่หรือหลักประกันเพิ่มเติมให้มีจำนวนครบถ้วนมามอบให้แก่ผู้ว่าจ้าง”
ไม่มีข้อไหนระบุให้ผู้ว่าจ้างรับผิดชอบค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกัน!
สรุป:
ค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกันเพิ่มเติม เป็นภาระของผู้รับจ้าง
หน่วยงานรัฐไม่ต้องจ่ายค่าธรรมเนียมนี้ ต่อให้การล่าช้าเกิดจากหน่วยงานรัฐก็ตาม
⸻
3. ถ้าผู้รับจ้างได้รับความเสียหาย สามารถเรียกร้องค่าเสียหายได้หรือไม่?
ทำได้! แต่ต้องไปฟ้องร้องที่ศาล ไม่สามารถเรียกเก็บจากหน่วยงานรัฐโดยตรง
ต้องดูว่าสัญญาก่อสร้างเป็นสัญญาทางปกครองหรือไม่!
ถ้าเป็นโครงการที่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะ (เช่น ถนน, โรงเรียน, โรงพยาบาล) → สามารถฟ้องศาลปกครอง
ถ้าเป็นโครงการที่ไม่เกี่ยวข้องกับบริการสาธารณะโดยตรง (เช่น รั้วรอบสำนักงาน, อาคารเก็บพัสดุของหน่วยงานรัฐ) → ต้องฟ้องศาลแพ่ง
แนวทางที่ถูกต้อง
ตรวจสอบก่อนว่าสัญญาของคุณเป็น “สัญญาทางปกครอง” หรือไม่
ถ้าเป็น → ฟ้อง ศาลปกครอง
ถ้าไม่ใช่ → ฟ้อง ศาลแพ่ง
⸻
สรุปให้เข้าใจง่ายๆ
1. กรณีนี้เป็นความผิดของผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่เหตุสุดวิสัย
2. ถ้าเข้าพื้นที่ก่อสร้างไม่ได้ → แจ้ง “ผู้ว่าจ้าง” โดยตรง ไม่ใช่ผู้ควบคุมงาน
3. ถ้าต้องขยายเวลาก่อสร้าง → ต้องทำเรื่องขอขยายภายใน 15 วัน ไม่งั้นสละสิทธิ์
4. ค่าธรรมเนียมหนังสือค้ำประกัน → ผู้รับจ้างต้องจ่ายเอง หน่วยงานรัฐไม่เกี่ยว!
5. ถ้าคิดว่าตัวเองเสียหาย → ต้องใช้สิทธิ์ฟ้องศาลปกครองหรือศาลแพ่ง ตามลักษณะสัญญา
อย่าคิดว่าจะเรียกเงินจากหน่วยงานรัฐได้ง่ายๆ ถ้าไม่มีข้อสัญญารองรับ!
⸻
คำแนะนำสำหรับผู้รับจ้าง
เก็บหลักฐานทุกอย่างให้ครบถ้วน
อย่ารอคำตอบจากผู้ควบคุมงาน ให้ส่งเรื่องตรงไปที่ผู้ว่าจ้าง
ถ้าถูกเอาเปรียบ ต้องใช้สิทธิ์ทางศาลเท่านั้น!
กฎหมายก่อสร้างไม่ใช่เรื่องไกลตัว ศึกษาไว้ ป้องกันตัวเองจากการเสียเปรียบ!
อย่าลืมแชร์ให้เพื่อนๆ ที่อยู่ในวงการก่อสร้างรับรู้กันด้วย!
#โยธาไทย #กฎหมายก่อสร้าง #สัญญาจ้างก่อสร้าง #ศาลปกครอง #สิทธิของผู้รับจ้าง
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
กำหนดงวดงานในประกาศ 1 งวด แต่สัญญา 3 งวด ทำได้หรือไม่?
กรณีศึกษานี้มีข้อผิดพลาดที่ต้องแก้ไขทันที!
มีคำถามจากหน่วยงานรัฐเกี่ยวกับการจัดจ้างก่อสร้างที่กำหนดงวดงานไว้ 1 งวดในประกาศประกวดราคา แต่เมื่อถึงขั้นตอนทำสัญญากลับเปลี่ยนเป็น 3 งวด ซึ่งเป็นสิ่งที่ ไม่ถูกต้อง และอาจนำไปสู่ปัญหาทางกฎหมายได้
⸻
ทำไมต้องทำสัญญาให้ตรงกับประกาศประกวดราคา?
เพราะ ประกาศประกวดราคา เป็นเอกสารที่กำหนดเงื่อนไขที่ใช้ในการพิจารณาและตัดสินใจเสนอราคาของผู้เสนอทุกราย ถ้าหากในขั้นตอนของประกาศกำหนดว่า งวดงานมี 1 งวด แต่ภายหลังเปลี่ยนเป็น 3 งวดในสัญญา นั่นหมายความว่า เงื่อนไขในการเสนอราคาถูกเปลี่ยนแปลง ซึ่งอาจส่งผลต่อ ผลลัพธ์ของการประกวดราคา
หากประกาศตั้งแต่แรกว่าเป็น 3 งวด ผู้ที่ชนะการประกวดราคาอาจจะเป็นคนละรายกับที่ชนะในปัจจุบัน เพราะการแบ่งงวดงาน-งวดเงินมีผลต่อการคำนวณต้นทุนและกระแสเงินสดของผู้เสนอราคาทุกราย การเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขโดยพลการ อาจเข้าข่ายเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้างที่ชนะการประกวดราคา และอาจถูกตรวจสอบในภายหลัง
⸻
แนวทางที่ถูกต้อง:
ขั้นตอนการทำสัญญา ต้องทำให้ตรงกับประกาศประกวดราคา อย่างเคร่งครัด เพื่อรักษาความโปร่งใสและป้องกันข้อครหา
หากพบว่ามีการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไข ต้องแก้ไขให้กลับมาเป็นไปตามประกาศโดยเร็ว
หลังจากทำสัญญาไปแล้ว หากผู้รับจ้างมีเหตุผลที่สมควรและเป็นประโยชน์ต่อราชการ อาจพิจารณาปรับแบ่งงวดงานภายหลังได้ ตามขั้นตอนที่ถูกต้องและต้องมีเอกสารรองรับ
⸻
บทเรียนจากกรณีนี้
การกำหนดงวดงานในประกาศ มีผลต่อการเสนอราคาและการแข่งขันที่เป็นธรรม ดังนั้น
ในขั้นตอนการประกาศประกวดราคาต้องกำหนดให้ชัดเจนตั้งแต่แรก
ในขั้นตอนการทำสัญญาต้องยึดตามประกาศประกวดราคา
หากต้องการเปลี่ยนแปลงภายหลังต้องมีเหตุผลที่ชัดเจน และต้องไม่เป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับผู้รับจ้าง
สรุป:
ในขั้นตอนการทำสัญญา ต้องทำให้ตรงกับประกาศประกวดราคา
หลังจากทำสัญญาไปแล้ว หากมีเหตุผลที่จำเป็นและเป็นประโยชน์ต่อราชการ อาจพิจารณาแบ่งงวดงานใหม่ได้ แต่ต้องทำอย่างรอบคอบและโปร่งใส
อย่าลืมว่า! การใช้ดุลพินิจที่ไม่เหมาะสม อาจถูกตรวจสอบ และนำไปสู่ปัญหาทางวินัยหรือกฎหมายในภายหลังได้
แชร์บทความนี้เพื่อให้หน่วยงานของคุณไม่ตกเป็นเป้าของการตรวจสอบ!
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
งานพิเศษในสัญญาจ้างก่อสร้างคืออะไร? ผู้รับจ้างต้องเข้าใจให้ชัด ก่อนจะทำหรือปฏิเสธ!
ในงานก่อสร้างของภาครัฐ “งานพิเศษ” ไม่ใช่เรื่องที่ผู้รับจ้างจะเลือกทำหรือไม่ทำได้ตามใจ เพราะ สิทธิ์ในการสั่งให้ทำงานพิเศษเป็นสิทธิของฝ่ายผู้ว่าจ้างตามสัญญา ผู้รับจ้าง มีหน้าที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง และ ต้องทำงานพิเศษที่ได้รับคำสั่งเป็นหนังสือเท่านั้น
หากผู้รับจ้างปฏิเสธงานพิเศษ ถือว่าผิดสัญญา หน่วยงานมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาตามข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง และตามกฎหมายมาตรา 103 ของพระราชบัญญัติการจัดซื้อจัดจ้างฯ
เมื่อถูกบอกเลิกสัญญา หน่วยงานสามารถเสนอชื่อผู้รับจ้างต่อปลัดกระทรวงการคลังให้เป็น “ผู้ทิ้งงาน” ตามมาตรา 109 ซึ่งหมายความว่า ผู้รับจ้างอาจถูกขึ้นบัญชีดำ ไม่สามารถรับงานจากภาครัฐได้อีก
แต่ผู้รับจ้างไม่ได้เสียเปรียบเสมอไป หากเห็นว่าค่าจ้างที่ได้รับสำหรับงานพิเศษต่ำเกินจริง หรือไม่ได้รับค่าจ้าง มีสิทธิ์ฟ้องศาลเรียกร้องค่าจ้างเพิ่มได้
ฝ่ายผู้ว่าจ้างเองก็ต้องให้ความเป็นธรรมแก่ผู้รับจ้าง โดยต้องจ่ายค่าจ้างเพิ่ม และต้องขยายเวลาให้ผู้รับจ้าง ถ้าการทำงานพิเศษมีผลกระทบต่อระยะเวลาก่อสร้าง
ราคาค่าจ้างที่กำหนดต้องเป็นจริงเป็นธรรม ผู้รับจ้างต้องมีกำไร เพราะอย่าลืมว่าผู้รับจ้าง “กินข้าว ไม่ได้กินแกรบ”!
ดังนั้น ผู้รับจ้างต้องเข้าใจทุกประเด็นให้ชัดเจน ก่อนจะทำหรือปฏิเสธคำสั่งให้ทำงานพิเศษ!
⸻
งานพิเศษคืออะไร?
“งานพิเศษ” คือ งานที่ไม่ได้ระบุไว้ในเอกสารแนบท้ายสัญญา แต่ผู้ว่าจ้างมีสิทธิสั่งให้ทำได้ หากอยู่ในขอบข่ายของวัตถุประสงค์ของสัญญา
สัญญาจ้างก่อสร้าง ข้อ 16 กำหนดไว้ว่า:
“ผู้ว่าจ้างมีสิทธิที่จะสั่งเป็นหนังสือให้ผู้รับจ้างทำงานพิเศษ ซึ่งไม่ได้แสดงไว้หรือรวมอยู่ในเอกสารสัญญานี้ หากงานพิเศษนั้นๆ อยู่ในขอบข่ายทั่วไปแห่งวัตถุประสงค์ของสัญญานี้ นอกจากนี้ ผู้ว่าจ้างยังมีสิทธิที่จะสั่งให้เปลี่ยนแปลงหรือแก้ไขแบบรูปและข้อกำหนดต่างๆ ในเอกสารสัญญานี้ด้วย”
สรุปง่ายๆ:
ถ้างานนั้น ไม่มีในสัญญาเดิม และต้อง เพิ่มเข้าไปใหม่ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้างเป็นหนังสือ → เป็น “งานพิเศษ”
ถ้างานนั้น เป็นเพียงการเปลี่ยนวัสดุ หรือเปลี่ยนรายละเอียดของงานที่มีอยู่แล้ว → ไม่ใช่งานพิเศษ!
⸻
ตัวอย่าง “งานพิเศษ” ที่ชัดเจน
ตัวอย่างที่ 1: เพิ่มรางน้ำฝนให้บ้านพักข้าราชการ
สัญญาเดิม → ไม่มีรางน้ำฝนที่ชายคา
หน่วยงานต้องการเพิ่ม → เพื่อเก็บน้ำฝนไปใช้ประโยชน์
ฟันธง! → งานนี้เป็นงานพิเศษ เพราะ ไม่มีในสัญญาเดิม และต้องเพิ่มเข้าไปใหม่
⸻
ตัวอย่างที่ 2: เพิ่มไฟจราจรให้ถนนที่สร้างใหม่
สัญญาเดิม → ไม่มีไฟจราจร
หน่วยงานสั่งให้เพิ่ม → เพื่อความปลอดภัยของประชาชน
ฟันธง! → เป็นงานพิเศษ เพราะ ต้องติดตั้งใหม่ที่ไม่มีในสัญญาเดิม
⸻
ตัวอย่างที่ 3: เพิ่มหลังคาทางเดินโรงเรียน
สัญญาเดิม → มีแค่พื้นทางเดิน ไม่มีหลังคา
หลังจากสร้างไปแล้ว พบว่าเด็กนักเรียนเดินไปเรียนแล้วเปียกฝน
ฟันธง! → เป็นงานพิเศษ เพราะ ไม่มีในสัญญาเดิม และต้องเพิ่มเข้าไปใหม่เพื่อให้ใช้งานได้จริง
⸻
แล้วอะไรที่ “ไม่ใช่” งานพิเศษ?
ตัวอย่างที่ 4: เปลี่ยนวัสดุปูพื้นจากกระเบื้องเซรามิกเป็นกระเบื้องแกรนิต
สัญญาเดิม → กำหนดให้ปูพื้นกระเบื้องเซรามิก
ผู้ว่าจ้างต้องการเปลี่ยนเป็นแกรนิตแทน
ฟันธง! → ไม่ใช่งานพิเศษ เพราะ เป็นแค่การเปลี่ยนวัสดุ ไม่ได้เพิ่มขอบข่ายงานใหม่
⸻
ค่าจ้างของงานพิเศษ คิดยังไง?
ลำดับการกำหนดค่าจ้างในงานพิเศษ ต้องเป็นไปตามนี้
ใช้ราคาตามสัญญาเดิมก่อน ถ้ามี
ถ้าสัญญาไม่มีราคาสำหรับงานพิเศษ → ผู้ว่าจ้างและผู้รับจ้างต้องตกลงราคากันใหม่
ถ้าตกลงกันไม่ได้ → ผู้ว่าจ้างเป็นฝ่ายกำหนดราคาค่าจ้างเอง
แม้ผู้รับจ้างไม่เห็นด้วย → ต้องทำงานไปก่อน ตามคำสั่งของผู้ว่าจ้าง
หากค่าจ้างที่กำหนดไม่เป็นธรรม → ผู้รับจ้างสามารถฟ้องศาลเรียกร้องเพิ่มได้
ฝ่ายผู้ว่าจ้างต้องให้ความเป็นธรรมกับผู้รับจ้าง:
การสั่งให้ทำงานพิเศษ ต้องมีการจ่ายค่าจ้างเพิ่มตามความเหมาะสม
หากงานพิเศษทำให้ระยะเวลาก่อสร้างเพิ่มขึ้น ต้องขยายเวลาด้วย
ค่าจ้างต้องเป็นจริงเป็นธรรม ผู้รับจ้างต้องได้กำไร อย่าลืมว่าผู้รับจ้าง “กินข้าว ไม่ได้กินแกรบ”!
⸻
ถ้าไม่ทำงานพิเศษ จะเกิดอะไรขึ้น?
หน่วยงานมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญา ตามข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง และตามกฎหมายมาตรา 103
ผู้ว่าจ้างสามารถเสนอชื่อให้เป็น “ผู้ทิ้งงาน” ตามกฎหมายมาตรา 109
อาจถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ไม่สามารถรับงานภาครัฐได้อีก
ถูกริบหลักประกันสัญญา และฟ้องเรียกค่าเสียหาย
สรุปชัดเจน: หากได้รับคำสั่งให้ทำงานพิเศษ ผู้รับจ้างต้องทำ ห้ามปฏิเสธ! ถ้าค่าจ้างไม่เป็นธรรม ให้ใช้สิทธิฟ้องศาลเรียกร้องค่าจ้างเพิ่ม ไม่ใช่หยุดงานหรือปฏิเสธงาน
แชร์โพสต์นี้ให้เพื่อนร่วมงานเข้าใจคำว่า “งานพิเศษ” กันเถอะ!
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
เว็บไซต์ใหม่ สำหรับค้นหา ราคาวัสดุก่อสร้าง ของกระทรวงพาณิชย์
https://index.tpso.go.th/construction-material-prices
ไปยังเว็บไซต์
อวสานป้ายในตำนานของ อปท.! ยกเลิก ว 2808 ปรับใหม่ ไม่มีป้ายถาวร ป้าย ปชส. โครงการทำตั้งแต่ 1 ล้านบาทขึ้นไป
หนังสือสั่งการ มท 0808.2/ว 1885 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2568 ถูกเผยแพร่ในระบบหนังสือสั่งการของกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นแล้ว ซึ่งหมายความว่า แนวทางปฏิบัตินี้มีผลบังคับใช้แล้ว
หน่วยงานท้องถิ่นต้องปฏิบัติตามแนวทางใหม่เกี่ยวกับป้ายประชาสัมพันธ์ โดยยกเลิก ว 2808 และใช้ ว 27 และ ว 537 แทน
อ่านให้จบ! เพื่อป้องกันการเข้าใจผิดและปฏิบัติให้ถูกต้อง
⸻
สาระสำคัญของ ว 1885 ที่เกี่ยวข้องกับป้ายประชาสัมพันธ์
1. ยกเลิก ว 2808 → ไม่มีป้ายถาวรอีกต่อไป
หน่วยงานท้องถิ่นไม่ต้องติดตั้งป้ายถาวรหลังจากก่อสร้างเสร็จอีกแล้ว
2. ใช้เกณฑ์ใหม่จาก ว 27 → ต้องติดป้ายเฉพาะโครงการที่มีมูลค่า 1,000,000 บาทขึ้นไป
โครงการต่ำกว่า 1 ล้านบาท → ไม่ต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์ตามข้อบังคับ
3. ปฏิบัติตาม ว 537 → ทุกป้ายต้องมี QR Code เชื่อมโยงไปยังข้อมูลโครงการบน e-GP
ประชาชนสามารถสแกน QR Code เพื่อดูรายละเอียดโครงการ
⸻
อย่าเข้าใจผิด! การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่ได้ทำให้สามารถละเลยข้อผูกพันในสัญญา
หากหน่วยงานได้ทำสัญญาจ้างไปแล้ว และมีการระบุให้ต้องติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ในสัญญา ผู้รับจ้างยังคงต้องปฏิบัติตามสัญญา
หนังสือ ว 1885 ไม่ได้มีผลย้อนหลังในการเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขของสัญญาที่ทำไปแล้ว
ดังนั้น หน่วยงานไม่สามารถอ้างว่าหนังสือฉบับนี้ออกมาแล้ว จะไม่ต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์ตามที่สัญญาระบุไว้
⸻
ป้ายประชาสัมพันธ์ต้องคำนวณราคาตามหลักการ ไม่ใช่ให้ผู้รับจ้างทำฟรี
เมื่อป้ายประชาสัมพันธ์ถูกกำหนดในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง ค่าใช้จ่ายต้องรวมอยู่ในราคาค่าก่อสร้าง
ราคาค่าก่อสร้างต้องคิดรวมค่างานต้นทุนของป้าย และสามารถคูณ Factor F ได้
เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว ผู้รับจ้างต้องติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ตามข้อกำหนด ซึ่งต้องมีราคาที่เหมาะสม ไม่ใช่ให้ผู้รับจ้างออกค่าใช้จ่ายเอง
แนวปฏิบัติที่ถูกต้อง:
หน่วยงานต้องกำหนดรายละเอียดป้ายประชาสัมพันธ์ในแบบรูปรายการก่อสร้าง
ค่าใช้จ่ายของป้ายต้องถูกคำนวณรวมอยู่ในราคาค่าก่อสร้าง
เมื่อเซ็นสัญญาแล้ว แบบรูปรายการงานก่อสร้างถือเป็นส่วนหนึ่งของสัญญา ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามโดยอัตโนมัติ
⸻
ว 27 กำหนดให้ “ผู้รับจ้าง” เป็นผู้จัดทำป้ายประชาสัมพันธ์
การติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์เป็นหน้าที่ของ “ผู้รับจ้าง” ไม่ใช่หน่วยงาน
หน่วยงานต้องใส่ข้อกำหนดนี้ไว้ในแบบรูปรายการงานก่อสร้าง เพื่อให้ผู้รับจ้างรับผิดชอบดำเนินการ
⸻
สรุปแบบเข้าใจง่าย!
1. ไม่มีป้ายถาวรหลังการก่อสร้างอีกต่อไป
2. โครงการต่ำกว่า 1 ล้านบาท ไม่ต้องติดป้ายประชาสัมพันธ์
3. โครงการตั้งแต่ 1,000,000 บาทขึ้นไป ต้องติดป้าย
4. ทุกป้ายต้องมี QR Code ตาม ว 537
5. หน่วยงานยังต้องปฏิบัติตามสัญญาที่ทำไปแล้ว ไม่สามารถใช้ ว 1885 มาเป็นข้ออ้างเพื่อหลีกเลี่ยงได้
6. หากต้องการให้โครงการต่ำกว่า 1 ล้านติดป้าย ต้องกำหนดไว้ในแบบรูปรายการก่อสร้าง
7. ค่าใช้จ่ายของป้ายต้องรวมเป็นค่างานต้นทุน และสามารถคูณ Factor F ได้
8. ผู้รับจ้างต้องเป็นผู้ดำเนินการติดตั้งป้ายประชาสัมพันธ์ ไม่ใช่หน่วยงาน
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
ด่วนที่สุด ที่ มท 0808.2/ว 1885 ลงวันที่ 5 มีนาคม 2568 เรื่อง วิธีปฏิบัติในการติดตั้งผ่านป้ายแสดงรายละเอียดเกี่ยวกับงานก่อสร้างขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
ดูและDownoad ทั้งหมด
ความสำคัญของ “ผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้าง” ในสัญญาจ้างก่อสร้าง ข้อ 10
“ผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้าง” เป็นเงื่อนไขสำคัญในสัญญา ที่ผู้รับจ้างต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
ในการดำเนินงานก่อสร้าง ผู้รับจ้างต้องมีผู้ควบคุมงานที่ปฏิบัติงานเต็มเวลา ซึ่งหมายความว่าผู้ควบคุมงานต้องอยู่ประจำหน้างาน ทุกวันที่มีการก่อสร้าง ไม่ใช่แค่เข้ามาดูงานเป็นครั้งคราว หรือมาควบคุมงานแบบขาดความต่อเนื่อง
⸻
ข้อกำหนดตามสัญญาจ้างก่อสร้าง ข้อ 10
ผู้รับจ้างต้องมีผู้ควบคุมงานที่ปฏิบัติงานเต็มเวลา
• หมายถึงต้อง อยู่ประจำหน้างานตลอดเวลาที่มีการก่อสร้าง
• ต้องสามารถตัดสินใจแทนผู้รับจ้างและรับคำสั่งจากผู้ว่าจ้างได้ทันที
การแต่งตั้งผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้างต้องได้รับการเห็นชอบจากผู้ว่าจ้าง
• หากต้องการเปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงาน ต้องขออนุมัติจากผู้ว่าจ้างเป็นลายลักษณ์อักษร
• ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์ขอให้เปลี่ยนตัวผู้ควบคุมงานหากพบว่าปฏิบัติหน้าที่ไม่เหมาะสม
คำสั่งจากฝ่ายผู้ว่าจ้างถือเป็นคำสั่งโดยตรงต่อผู้รับจ้าง
• คำสั่งของ ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้าง คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ หรือที่ปรึกษาโครงการ ถือว่าเป็นคำสั่งที่แจ้งแก่ผู้รับจ้างโดยตรงผ่านผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้าง
• ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างมีอำนาจออกคำสั่ง เช่น คำสั่งให้แก้ไขงาน คำสั่งให้หยุดงาน หากพบข้อบกพร่องในการดำเนินงาน
⸻
หากไม่มีผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้าง = ผิดสัญญาทันที
หากผู้รับจ้าง ไม่มีผู้ควบคุมงานประจำหน้างาน เท่ากับว่าผู้รับจ้าง ละเมิดสัญญาข้อ 10 ซึ่งส่งผลให้ ผู้ว่าจ้างมีสิทธิ์บอกเลิกสัญญาได้ ตามข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง
⸻
ความเชื่อมโยงกับกฎหมายมาตรา 103
มาตรา 103 (3) ระบุชัดว่า หากผู้รับจ้างผิดสัญญาตามที่กำหนดไว้ในสัญญา ผู้ว่าจ้างมีสิทธิใช้ดุลพินิจบอกเลิกสัญญาได้
การไม่มีผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้าง เท่ากับผิดสัญญาโดยตรง และเข้าข่ายตาม มาตรา 103 (3) และข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง ซึ่งให้สิทธิผู้ว่าจ้างในการยกเลิกสัญญาทันที
⸻
คำแนะนำสำหรับ “คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ” และ “ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้าง”
ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างต้องบันทึกในรายงานประจำวัน
• ตาม ระเบียบข้อ 178 (2) ขณะเข้าตรวจหน้างาน ต้องบันทึกว่าผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้างตามข้อ 10 อยู่ปฏิบัติงานหรือไม่
• หากเป็นงานที่ต้องมีวิศวกรหรือสถาปนิกควบคุมงานตามกฎหมายวิชาชีพ ต้องตรวจสอบว่ามีผู้ควบคุมงานตามกฎหมายอยู่หรือไม่
หากพบว่าผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้างไม่อยู่หน้างาน
• คณะกรรมการตรวจรับพัสดุ ต้องรายงานให้หัวหน้าหน่วยงานของรัฐพิจารณา
• ผู้ว่าจ้างสามารถใช้ดุลพินิจในการบอกเลิกสัญญาตาม มาตรา 103 และข้อ 7 ของสัญญาจ้างก่อสร้าง
⸻
บทบาทที่ถูกต้องของ “ผู้ว่าจ้าง” และ “ผู้รับจ้าง”
“การทำงานจ้างก่อสร้างเป็นหน้าที่ของผู้รับจ้าง ไม่ใช่ของผู้ว่าจ้าง”
• ผู้รับจ้างต้องดำเนินงานตามแผนงานที่กำหนดในสัญญา ไม่ต้องรอคำสั่งจากผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างหรือคณะกรรมการตรวจรับพัสดุ
• ผู้รับจ้างต้องเป็นฝ่ายขับเคลื่อนงานเอง ไม่ใช่รอให้ฝ่ายผู้ว่าจ้างแจ้งให้ทำแต่ละขั้นตอน
“การควบคุมงานและการตรวจรับของฝ่ายผู้ว่าจ้าง ไม่ใช่การทำงานแทนผู้รับจ้าง”
• ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างและคณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีบทบาทในการตรวจสอบ ว่างานของผู้รับจ้างเป็นไปตามสัญญาหรือไม่
• ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างมีอำนาจ ออกคำสั่งให้แก้ไขงาน หรือหยุดงานชั่วคราว หากพบข้อผิดพลาด แต่ ไม่ได้มีหน้าที่บริหารงานก่อสร้างแทนผู้รับจ้าง
• คณะกรรมการตรวจรับพัสดุมีหน้าที่ ตรวจสอบและพิจารณาการส่งมอบงาน ไม่ใช่เป็นผู้กำกับการทำงานให้ผู้รับจ้าง
⸻
บทสรุป: ทำหน้าที่ให้ถูกต้อง งานก่อสร้างภาครัฐจะมีประสิทธิภาพ
ผู้รับจ้างปฏิบัติตามเงื่อนไขสัญญา
ผู้ควบคุมงานของผู้รับจ้างอยู่หน้างานตลอดเวลา
ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างทำหน้าที่ตรวจสอบอย่างเคร่งครัด
คณะกรรมการตรวจรับพัสดุดำเนินงานตามระเบียบ
หากทุกฝ่ายทำหน้าที่ของตนเองอย่างถูกต้อง งานจ้างก่อสร้างของภาครัฐจะเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ เกิดประโยชน์ต่อราชการ ประเทศชาติ และประชาชน อย่างแท้จริง
~~~~~~~~~~
แชร์ได้ , save ไว้ศึกษาส่วนตัวได้ , ห้ามนำไปโพสซ้ำหรือใช้งานที่อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาต สงวนสิทธิ์ตามกฎหมาย
~~~~~~~~~~
อบรมกับโยธาไทย
1. อบรมราคากลางและค่า K
https://training.yotathai.com/con-k
2. อบรมการจัดทำราคากลาง +ว452 +ว124
https://training.yotathai.com/w452
3. อบรมหลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา
https://training.yotathai.com/work
4. อบรมกฎหมายปกครองกับงานจ้างก่อสร้าง หลักการควบคุมงาน บริหารสัญญา และตรวจรับ
https://training.yotathai.com/law-work
5. อบรม AI กับงานก่อสร้างและบริหารงานก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/ai
6. อบรมราคากลางงานก่อสร้างและสัญญาจ้างก่อสร้าง
https://training.yotathai.com/contract
7. อบรม SketchUp BIM + LayOut
https://training.yotathai.com/sketchup
..........
อบรมออนไลน์
https://yotathai.link/online-training อบรมออนไลน์
..........
https://yotathai.link/lecturer เชิญวิทยากรบรรยาย
https://yotathai.link/office ติดต่อทีมงานโยธาไทย (Line@)
https://yotathai.link/training สมัครอบรมกับโธาไทย
https://yotathai.link/chat กลุ่มสนทนาใน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/news รับข่าวสารผ่าน Line(ฟรี)
https://yotathai.link/club กลุ่มปรึกษาปัญหาใน FB(ฟรี)
https://yotathai.link/fb-gp กลุ่มปรึกษาปัญหาจัดจ้างก่อสร้าง ใน FB (ฟรี)
https://yotathai.link/shop ร้านค้าโยธาไทย
https://yotathai.link/premix ยางมะตอยโยธาพรีมิกซ์
https://yotathai.link/alum สารส้ม-คลอรีน
https://yotathai.link/program โปรแกรมคอมพิวเตอร์
https://yotathai.link/program-k โปรแกรมค่า k
https://yotathai.link/program-factorf โปรแกรม Factor F
https://yotathai.link/program-unitcost โปรแกรมคำนวณวัสดุมวลรวม
https://yotathai.link/program-sketchup โปรแกรม SketchUp
https://roadprice.yotathai.com โปรแกรม ROAD PRICE ประมาณราคางานทาง
https://yotathai.link/rebars เขียนเหล็กเสริมใน SketchUp
https://yotathai.link/k-cal รับคำนวณค่า K
Categories
All
Download
E-GP
Factor F
Tor
กรมบัญชีกลาง
การทิ้งงาน
การบริหารพัสดุภาครัฐ
ข้อหารือ
ข่าวสาร
ครุภัณฑ์
ควบคุมงานก่อสร้าง
ค่าK
ค่าตอบแทน
ค่าตอบแทน
ค่าอำนวนการก่อสร้าง
งานดินลูกรัง
งานทาง
จัดซื้อจัดจ้าง
ชลประทาน
ดัชนี
ดัชนีค่า K
บอกเลิกสัญญา
บัญชีราคามาตรฐาน
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์
บัญชีราคามาตรฐานครุภัณฑ์
แบบฟรอร์ม
แบบฟอร์ม
ป้าย
โปรแกรม
โปรแกรมค่าk
ผลงานประเภทเดียวกัน
ผลงานประเภทเดียวกัน
พรบ.พัสดุ
พัสดุ
รวมข้อหารือจัดซื้อจัดจ้าง
รวมหนังสือหารือ
ระเบียบพัสดุ
ราคากลาง
ราคาต่อหน่วย
ราคาผลิตภัณฑ์แอสฟัลท์
ราคาผลิตภัณฑ์แอสฟัลท์
ราคามาตรฐาน
ราคาสิ่งก่อสร้าง
ว159
ว452
ว78
วันเปิดซองค่า K
สำนักงบประมาณ
อัตราราคางานต่อหน่วย
อัตราราคาต่อหน่วย